By “เทรนด์อยู่ที่ไหน หนทางอยู่ที่นั่น”
สรุป Session Half Year Trends : Marketing โดยคุณตูน – สุธีรพันธุ์ สักรวัตร Chief Customer Officer, SCBX และคุณเจ – เจนคณิต รุจิรโมรา Chief Strategy Officer, Leo Burnett Thailand/Publicis Groupe Thailand ในงาน CTC2024
Marketingในช่วงที่ผ่านมา มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง
คุณเจแชร์ภาพใหญ่ว่าที่ผ่านมาทุกอย่างแพงขึ้น นักการตลาดจะให้ความสำคัญกับอะไรที่สามารถตัดสินใจได้ง่าย ‘data’ เลยกลายเป็นหัวใจที่ทำให้ตัดสินใจได้ดีขึ้น
แต่ส่วนมากจะเป็น data ที่มาจาก platform ข้อดีคือทำให้ใช้ประโยชน์จาก platform ได้เต็มที่ แต่อีกด้าน เราต้องเรียนรู้อัลกอริทึมของมัน ซึ่งทุก ๆ คนก็พยายาม follow ในแบบเดียวกัน ทำให้ความต่างของแต่ละแบรนด์มันยากขึ้นเรื่อย ๆ
อีกมุมนึง มี ‘commerce mindset’ มากขึ้น พยายาม shortcut ไปปิดการขายให้เร็ว เน้น B2C มากขึ้น หาวิธีขายตรง ส่วนนึงก็ต้องการ first-party data
อย่างไรก็ตาม จาก Survey บอกว่า ในปี 2021 – 2023 มี investment ใน B2C ลดลงเยอะ เพราะยากมากที่จะสร้าง brand loyalty พอลืมนึกถึงเรื่อง branding โฟกัส B2C ก็จะทำให้เป็น price war สุดท้ายบางแบรนด์อาจจะต้องลดตรงนี้ลง ยอมกลับไปอยู่กับ retailer แต่นั่นคือจะยอมไม่รู้จักลูกค้าโดยตรง
ต่อมา คุณตูนบอกว่า “เทรนด์อยู่ที่ไหน หนทางอยู่ที่นั่น” แล้วเทรนด์อยู่ที่ไหนล่ะ ?
8 ข้อที่คุณตูนหยิบมาพูดโดยอ้างอิงเทรนด์ global จาก Cannes Lions
AI And Creativity: เอา AI มาช่วยคนยังไง
Creator Economy and Brand Partnerships: หลายแบรนด์ใช้ creator เยอะมากขึ้น SCB ก็ใช้เช่นกัน
Cultural Relevance and Brand Building: หลายแบรนด์เริ่มให้น้ำหนักกับ brand building มากขึ้น คุณเจเสริมว่า ตอนนี้อยู่ขาขึ้นของการใช้ performance marketing ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
“ถ้ามี brand building มาประกอบแล้วสิ่งที่เรา invest ใน performance marketing จะ effective ขึ้น”
Women/s Empowerment and Diversity: เราต้อง embrace ความหลากหลาย ใน global เรื่องนี้ยังเป็นเรื่องที่ต้องผลักดัน โดยเฉพาะสำหรับคนที่ disability
Sustainability and Purpose-Driven Marketing: ทุกแบรนด์จะต้องมี purpose สังคมจะจับตามองแบรนด์ที่ green washing ทำไม่จริงแต่อ้างว่าทำ
The Future of Technology in Marketing: MarTech พ้นจากจุดที่เป็น MVP แล้ว ใช้ได้จริง ของไทยก็มีให้ใช้เยอะ
คุณเจเสริมว่า เราจะเห็น campaign-based น้อยลง จะเป็น continuous loop มากขึ้น โดยเราจะสามารถเอา data มาทำ media strategy ได้ และ data ก็จะบอกเราว่า เราควรจะทำแคมเปญประมาณไหน ใช้ให้ identify ลูกค้าได้ดีขึ้น แม่นยำมากขึ้น
Continuous loop จะทำให้เราไม่สูญเสียโอกาส need ของลูกค้า เพราะเราจะสามารถดึงข้อมูลมาใช้ได้ตลอดเวลา รู้จังหวะและตอบโจทย์ลูกค้า
Creative Effectiveness and Brand Building: ทำยังไงให้ผู้บริหารรู้สึกว่า ความคิดสร้างสรรค์มีคุณค่ากับธุรกิจ ในยุคที่ CEO เน้นเรื่อง performance 
Personal and Professional Growth: เราไม่ได้เบิร์นเอาท์ประเทศเดียว ทำยังไงให้ชีวิตนักการตลาดเอาชนะข้อจำกัด ความเหนื่อย ความล้า มีพลังในการทำงานมากขึ้น
คุณตูนปิดท้ายว่า “Trends come and go. People stay. พวกเราเนี่ยแหละคือหัวใจสำคัญของการทำการตลาด”
