การใส่ animation หรือ motion ต่างๆ ผสมผสานกับ flat design ที่เรียบง่าย เป็นแนวทางการออกแบบ UI ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เพื่อช่วยให้ User ไม่รู้สึกเบื่อกับการใช้แอปพลิเคชันแบบเดิมๆ
ในบทความนี้ เราจะมาดูกันว่า Animation เหล่านั้นมีกี่ประเภทและประกอบไปด้วยองค์ประกอบอะไรบ้าง
Table of Contents
1. Hero Animations
Hero Animations ให้แปลตรงตัวเลยก็เหมือนกับ Animation หลัก ที่เป็นเสมือนตัวสร้างประสบการณ์ระหว่างแอปพลิเคชันกับ User เปรียบเสมือน Branding ของแอปเลยก็ว่าได้
ลองคิดว่าคุณกำลังนั่งเครื่องบิน แล้วไม่มี Safety Demonstration Video ไม่มีคนมาอ่านหรือทำท่าอะไรให้ดู มีแต่แผ่นพับเสียบไว้ให้เราอ่านเราก็คงไม่ได้ให้ความสนใจอะไรกับความปลอดภัยมากนัก แต่ถ้ามองในมุมกลับกันการที่มีคนมาทำท่าสนุกๆ หรือมีวิดีโอสาธิตที่น่าตื่นเต้นก็จะทำให้ลูกค้าเกิดประสบการณ์ร่วมที่ดีตั้งแต่เครื่องยังไม่ออกบิน อีกทั้งยังสร้าง Brand Image ให้กับสายการบินได้อีกด้วย
การที่ User กำลังรอ Loading จะเข้าไปใช้แอปพลิเคชัน Animation ในหน้า Splash Screen ก็สามารถสร้างประสบการณ์แรกเข้าที่น่าตื่นตาตื่นใจให้กับ User ได้
2. Micro Interactions
Micro Interactions เป็นส่วนประกอบเล็กๆ ที่ทำให้แอปไม่แข็งทื่อ สร้างความสนุกสนานให้กับการใช้งาน
ถ้าระหว่างเราอยู่บนเครื่องบินแล้วแอร์ไม่ยิ้มให้ ความประทับใจของเราที่มีต่อสายการบินนั้นคงลดลง ไม่ว่าอาหารจะอร่อยแค่ไหนก็ตาม
Micro Interactions สามารถเป็นได้ตั้งแต่การรอโหลดในแอปพลิเคชัน สติกเกอร์ที่ขยับได้ (สวัสดีวันจันทร์) ซึ่งเจ้าส่วนประกอบเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้แหละที่ทำให้แอปดูมีชีวิต มีสีสันและมี human touch มากขึ้น
3. Visual Feedback
Visual Feedback เป็นการตอบสนองจากการกด ปัด ลาก ดึงหรืออะไรก็ตามที่ User ทำกับแอปของเรา แล้ว Interface มีการตอบสนองกลับ เช่น ปุ่มเปลี่ยนสี ไอคอนเปลี่ยนขนาด หรือหน้าจอสไลด์เข้ามา เป็นต้น
ลองนึกว่าเรากดรีโมทเรียกแอร์โฮสเตสสาวสวย แต่เราไม่เห็นไฟบนหัวสว่างขึ้น เราก็คงจะไม่รู้ว่าตัวเองกดเรียกไปแล้วหรือยัง ควรต้องกดซ้ำอีกทีหรือไม่
ตัวอย่างของ Visual Feedback แบบต่างๆ
ไม่ใช่แค่เท่ แต่ feel good
การทำกราฟิกที่เคลื่อนไหวไม่ใช่แค่เพื่อความสนุกหรือความเท่ แต่เป็นการสร้างประสบการณ์ร่วมที่ดีให้กับผู้ใช้