[Blog Cover] ธุรกิจที่ยังเติบโตปี 2025 ท่ามกลางเศรษฐกิจแย่ เขาทำอะไรที่ ‘แตกต่าง’

ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ทำไมถึงมีหัวแถวหน้าใหม่โผล่ขึ้นมา?

สรุปเซสชัน Exploring Possible Future: How to Keep Your Business Ahead of the Curve จุดประกายอนาคต ปลดล็อกแนวคิดพาธุรกิจโต โดย คุณเคน-นครินทร์ วนกิจไพบูลย์ THE STANDARDThe Secret Sauce ในงาน Digital SME Conference Thailand 2025

หัวใจสำคัญของนักธุรกิจไม่ใช่เทคโนโลยี แต่คือหัวใจ

เศรษฐกิจดีไม่ดีเป็นเรื่องของความรู้สึก ถ้าเราลงไปดูที่รายละเอียด จริง ๆ แล้วมันมีโอกาสเยอะมาก คำถามคืออะไรคือจุดแตกต่างที่ตัดสินว่าธุรกิจไหนรอด หรือธุรกิจไหนร่วง
คุณเคนได้นำเสนอข้อมูลที่น่าฉุกคิดไว้ว่า…
เทรนด์โลกและเทรนด์ธุรกิจยังคล้ายเดิม แต่ว่าเร็วและแรงขึ้น เพราะสถานการณ์โลกคาดเดาได้ลำบาก

ธุรกิจที่เขาสามารถพุ่งทะยานได้ เขาทำอะไร?

คุณเคนได้ยกตัวอย่างกรณีศึกษาจาก เช่น

  • Flash Express ยูนิคอร์นรายแรก พลิกกำไร 940 ล้านบาท ลุย Logistics ด้วย AI
  • Iberry เปิดทะลุ 16 แบรนด์ รายได้ 3,000 ล้านบาท
  • Suki Teenoi พุ่งทะยานเป็นแนวหน้าของราชาสุกี้
  • Karun สงครามชาเกิดขึ้น แต่ยังโตได้
นอกจากนี้ก็ยังยก Chiva-Som, Srichand, 4U2 และ Her Hyness มาโชว์ให้ดูด้วย
ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ไม่ดี คำถามคือ ทำไมเขายังโตได้? เพราะอะไรกัน?
คำตอบคือเขามีกรอบความคิดและการลงมือทำที่ “ถูกที่ถูกเวลา” เติบโตไปกับเทรนด์ในช่วงนี้

4 Mega Trend ปัจจุบัน

  • Wellness – อุตสาหกรรมนี้เติบโต 12% ต่อปี และประเทศไทยเองก็มีจุดเด่นส่วนนี้
  • Natural IP – เป็นเรื่องสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ในพื้นที่นั้น ๆ เช่น มะพร้าวเป็นสิ่งทุกคนรู้ว่าที่เมืองไทยอร่อยที่สุด ทำให้ Thaicoco และ If เพิ่ม Value และไปเติบโตในจีนได้มาก
  • Sustain – ตัวอย่างเช่น Thai Eastern Group ผลิตยางพาราและเติบโตไปยังต่างประเทศได้อย่างยั่งยืน
  • AI – สิ่งนี้เป็นมากกว่า Trend แต่มัน Game Changer แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะทุกที่ก็ได้พูดถึงเรื่องนี้กันหมดแล้ว ช่วยลดต้นทุน, เพิ่ม Productivity, ขยายขอบเขตความรู้, ขยาย Creativity
แล้วเทรนด์ที่เกี่ยวข้องกับ Digital Product ล่ะ? คุณเคนได้บอกว่าเทรนด์ของ B2C จะเปลี่ยนแปลงเร็วกว่า B2B เยอะมาก เพราะผู้บริโภคเบื่อเร็วและจะติดตามหาของใหม่อยู่ตลอด

Rise of Chinese Challenge Brand

จีนไม่ใช่โรงงานโลกแล้วแต่เริ่มทำแบรนด์ที่มีภาพลักษณ์และนวัตกรรมเป็นของตัวเอง
สินค้าอื่น ๆ ก็ทำได้ดีขึ้นมาก เพราะ Supply Chain เขาทำได้ดีมาก มีครบทุกอย่าง
แต่ก่อนเราอาจจะมองว่าใช้ของจีนแล้วไม่เท่ แต่ปัจจุบันไม่ใช่แล้ว ราคาของเขาถูก และเขารักษาคุณภาพได้ดีเยี่ยมมาก คุณเคนยกตัวอย่าง Xiaomi ที่ทุกวันนี้มีอยู่แทบจะทุกหนแห่ง
แบรนด์จีนมีความเท่และเป็นเอกลักษณ์มากขึ้น เช่น POP MART ฟาดรายได้ครึ่งปีแรกไปกว่า 69,400 ล้านบาท! รวมถึงแบรนด์อื่น ๆ อย่าง Chagee, Mixue และแบรนด์เหล่านี้จะเข้ามาอีกเรื่อย ๆ แล้วประเทศไทยต้องทำยังไง เป็นคำถามที่เราต้องถามตัวเองต่อไป

The Collapse of ‘’Mass’ and Rise of Fragmentation

คุณเคนได้นำเสนอว่า…72% ยอมจ่ายเพิ่มเพื่อแบรนด์ที่มีคุณค่าชัดเจน
เราไม่จำเป็นต้องตามหาลูกค้าให้ได้มากที่สุด ไม่จำเป็นต้องหาทุกคน
แต่เราต้องหา “ชนเผ่า” ของเรา ยอดคนรู้จักน้อยก็ไม่สำคัญ ตราบใดที่เรายังมีคนซื้อ
คนรุ่นใหม่ไม่ต้องการของแพง แต่ต้องการของที่มีความหมาย
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ FAROSE ที่มีการสร้างคอมมูนิตี้ของตัวเองขึ้นมา
จนมีฐานผู้ติดตามที่ชัดเจนมาก มี Character ชัดเจน = Branding ชัด
เราต้อง Define ตัวเองและให้ความสำคัญกับการสร้างตัวตนมากขึ้น เพราะแบรนด์ระดับโลกเริ่มจะเอาวัฒนธรรมและชนเผ่ามาผสมกับตัวสินค้าแล้ว

From Advertising to Authenticity

ตอนนี้คนเชื่อ Micro และ Nano Influencer มากกว่า Influencer ตัวใหญ่ ๆ แล้ว เพราะ Influencer เหล่านี้มีความ Real, Raw และ Relevance มีความน่าเชื่อถือมากกว่า และด้วย AI ทำให้ไม่ต้องใช้งบมากในการสร้าง Ads ถือเป็นโอกาสที่ดีของคนตัวเล็ก

The New Commerce Models: Social, Live, Direct

โลกเข้าสู่ยุค Live Commerce ไม่ต้องมีหน้าร้านก็ใช้ Live Commerce เข้ามาแทนได้ เป็นโอกาสทองของแบรนด์เล็กที่ปรับตัวได้ไว เพราะแบรนด์ใหญ่ทำตามไม่ทัน

Key Takeaway จากคุณเคน

  • Reposition หรือ Rebuild Brand หาตัวตนใหม่ที่ชัด เป๊ะ เฉียบ
  • เข้าใจชนเผ่าลูกค้าให้ลึก ไม่ใช่แค่เพศ อายุ รายได้ แต่ต้องเข้าใจความเชื่อและอารมณ์ที่ลูกค้ามี
  • ใช้ Social Platform ให้เป็น Storytelling Platform หัดพูดให้ได้ใจ ไม่ใช่แค่ขายให้ได้ยอด
  • อย่ากลัวแบรนด์จีน แต่ต้องเข้าใจเขา ดูว่าทำไมเขาถึงเวิร์ค แล้วเราแตกต่างตรงไหน
  • เริ่มทดลองตั้งแต่วันนี้ แม้จะยังไม่พร้อมก็ต้องกล้าก้าวก่อนที่ทุกอย่างจะสาย

สุดท้ายนี้ 4 อย่างที่คุณเคนอยากเน้นย้ำไว้คือ

  1. เข้าใจโลก – เข้าใจ Mega Trend เราควรจะปรับตัวไปกับเทรนด์นี้ และเอาหลายเทรนด์มาจับมัดรวมกัน
  2. เข้าใจตัวเอง – รู้ว่าเรามีอะไรที่คนอื่นเขาไม่มี
    Detect หาว่าตัวเองมี Asset มีความรู้อะไร
    Define อะไรที่เรามีแต่คนอื่นไม่มี
    Design เอาสิ่งนั้นมาพัฒนาให้ดีกว่าเดิม
  3. ลับฝีมือ – เราต้องพัฒนาตัวเองเสมอ
  4. หาเพื่อน – โฟกัสในสิ่งที่เราถนัด หาเพื่อนที่มีความแตกต่างให้เราเห็นมุมที่ต่างออกไป

วิกฤตนี้ไม่ใช่เวลาถอย เราอาจจะเหนื่อยหรือเครียด แต่สุดท้ายเราต้องช่วยตัวเอง คนที่ปรับตัว ลงมือทำ ปรับตัวได้ จะเจอแต่ขาขึ้นเท่านั้น ช่วงวิกฤตนี่แหละจะเป็นจุดตัดสินว่าใครขึ้นหรือลง


เปลี่ยนการทำการตลาดแบบเดิม ๆ ให้ AI กลายมาเป็นผู้ช่วยในธุรกิจของคุณแบบรอบด้าน กับเวิร์กชอป “Generative AI for Marketing Transformation” 

 เพียง 3 วัน คุณจะเข้าใจวิธีใช้ AI กับงาน Marketing แบบครบลูป ตั้งแต่วางแผน ทำโพสต์ เขียนคอนเทนต์ คิดแคมเปญ สร้างรูปภาพ และ VDO วิเคราะห์ข้อมูล สรุป Insight ไปจนถึงทำ Automation ให้พร้อมใช้กับงานคุณจริงทันที! อ่านรายละเอียด/สมัครเรียน คลิก Generative AI for Marketing Transformation

Generative AI for Marketing Transformation | Skooldio

More in:Business

Comments are closed.