เก่งอย่างเดียวไม่พอ! ต้องคุมอารมณ์ตัวเองได้ด้วย

โลกทุกวันนี้ความไม่แน่นอนสูง สิ่งที่เคยรู้หมดอายุเร็ว เราจึงวางแผนแบบเดิมไม่ได้ได้ ดังนั้นก่อนเราจะทำอะไรได้ดี มันต้องเริ่มจากวิธีคิดที่ถูกต้อง

สรุป Session First Step Kickstart: ไขความลับสู่โลกการทำงาน 2025 โดยคุณ รวิศ หาญอุตสาหะ Rawit Hanutsaha – CEO, Srichand & Mission To The Moon Media จากงาน 7-ELEVEN YOUNG GENIVERSITY 2025: EVENT DAY Mission To The Moon

คุณแท็ปเชื่อว่าจะทำอะไรได้ดีต้องเริ่มต้นจากวิธีคิดที่ถูกต้อง ในอนาคตเราจะเจออะไร และจะรับมือกับมันอย่างไร 

การเปลี่ยนแปลงที่เรากำลังเผชิญ

1.เศรษฐกิจชะลอตัว – พื้นที่เติบโตใหม่ ๆ น้อยลง

2.ความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ – ทำให้ไม่สามารถพึ่งพาตลาดหรือห่วงโซ่การผลิตเดิมได้

3.เทคโนโลยี AI/Automation เข้ามาแทนที่แรงงานจำนวนมาก

4.โครงสร้างประชากรเปลี่ยน – คนอายุยืนขึ้น ทำให้รูปแบบการศึกษา-ทำงาน-เกษียณเปลี่ยนแปลง

คนเรามี 3 stages ในชีวิต 

จากเดิมการเรียนและทำงานอายุ 20 – 60 ปี แต่ปัจจุบันเปลี่ยนไป 

เรื่องเล่าจาก “Cliff Young”

คุณแท็ปได้เล่าว่ามีคุณ Cliff Young ชายอายุ 61 ปี เข้าแข่งขันวิ่งมาราธอน กรรมการถามเขาหลายครั้งว่า ‘จะสมัครจริง ๆ หรือ?’ เพราะคุณ Cliff Young แทบไม่มีรองเท้าวิ่งด้วยซ้ำ แต่เมื่อการแข่งขันได้เริ่มขึ้น คุณ Cliff Young เริ่มวิ่งจากการวิ่งเหยาะ ๆ ซึ่งบางคนก็ขำเขา 

โดยการแข่งวิ่งมาราธอนนี้ นักวิ่งแต่ละคนจะมีโค้ชที่คอยวางแผนการวิ่ง แต่คุณ Cliff Young 

เขาไม่รู้วิธีการวิ่งจึงทำได้แค่วิ่งไปเรื่อย ๆ พยายามไปเรื่อย ๆ ตอนเริ่มต้นเขาอาจจะวิ่งรั้งท้าย แต่ตอนหลังขึ้นมานำและวิ่งเข้าเส้นชัยเป็นที่ 1

ความไม่รู้ บวกกับ ความกล้า จึงกลายเป็นความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่

ความสำเร็จมาจากการตัดสินใจที่ถูกต้อง ซึ่งมาจากประสบการณ์ที่ผิดพลาด และทั้งหมดเริ่มจาก ‘ความกล้านั่นเอง

Innovation Cycle ครั้งที่ 6

ครั้งนี้คือ AI ที่ฉลาดกว่าเรา ไม่ใช่แค่เป็นเครื่องทุ่นแรงแบบที่ผ่านมา ซึ่งการมาถึงของเทคโนโลยี ทำให้ต้นทุนถูกลงมาก (ตัวอย่างเช่น สมัยก่อนเราอยากโทรศัพท์ข้ามประเทศ เราอาจโทรไปสหรัฐอเมริกาเสียเงิน 50 บาท/ครั้ง แต่สมัยนี้เราเสียเงินแค่ค่าอินเทอร์เน็ต แล้วเราสามารถโทรไปที่ไหนก็ได้)

ดังนั้น ความรู้ที่เพิ่มขึ้น ทำให้จากสิ่งที่ราคาแพงมาก ๆ สามารถถูกลงมาก ๆได้

ทักษะหลักที่จำเป็นในปี 2025 (Top 5 Core Skills)

1. Analytical Thinking: คิดวิเคราะห์
2. Resilience: ไม่ยอมแพ้ อดทน
3. Leadership: ภาวะผู้นำ
4. Creative Thinking: คิดสร้างสรรค์
5. Self-Awareness: รู้จักตัวเอง

โลก AI มีได้หลายทางเลือก

1. Utopia: AI คือผู้มาช่วยให้รอด AI สร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจ
2. Dystopia: AI ทำลายมนุษย์
3. โลกความจริง – AI อยู่ร่วมกับมนุษย์ (Co-exist)

3 อาวุธลับ สำหรับคนทำงานรุ่นใหม่

1. See Who You Are – รู้จักตัวเองให้ลึก เราเก่งอะไร ทำอะไรได้ ทำอะไรไม่ได้ 

ถามตัวเองว่าเราเป็นใครแทนที่จะถามว่าอยากเป็นอะไร รู้จัก จุดแข็ง (Strength), ความชอบ (Passion), คุณค่าหลัก (Core Values) ของเราเอง

ตัวอย่าง จากคุณ Steve Jobs

เรียนการเขียน calligraphy ตอนเรียนเขาก็ไม่รู้ว่าจะเรียนไปทำไม แต่ตอนได้มาทำงานที่ Apple เขาได้เอาความรู้มาใช้ ทำให้จุดเด่นอย่างนึงที่สำคัญของ Apple คือ ตัวอักษร calligraphy ที่สวยงาม

ข้อคิดจากคุณ Steve Jobs นั่นคือ เลือกเรียนรู้ในสิ่งที่ใช่ แล้วคุณจะหาจุดเชื่อมโยงได้ในอนาคต

ตัวอย่างเพิ่มเติม คุณ Mark Court

ศิลปินวาดเส้นข้างรถ Rolls-Royce มูลค่าหลายล้าน และ คุณGlenn Berger นักดำน้ำเก็บลูกกอล์ฟ กลายเป็นเศรษฐี

Hedgehog concept

ทฤษฎีที่ว่าด้วยการที่มีจิ้งจอกตัวหนึ่งไม่สามารถจัดการเหยื่ออย่างเม่นได้ เพราะเมื่อเม่นขดตัวแล้วจะมีหนามแหลมทิ่ม ทำให้จิ้งจอกกินไม่ได้ 

กล่าวคือ มนุษย์เราจะต้องหาจุดที่ทำได้ดี หาจุดเชื่อมโยงในชีวิต (Connecting the Dots) ในปัจจุบันให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะนำไปเชื่อมโยงกับในอนาคต

โดยในที่นี้จะมีทั้งหมด 3 อย่าง คือ

1. สิ่งที่คุณเก่งที่สุด (Best at)
2. สิ่งที่คุณหลงใหล (Passion)
3. สิ่งที่มีคุณค่า (Value)

ดังนั้น ถ้าเราเข้าใจตัวเองมากขึ้นจะรู้ว่าต้องการอะไร 

2. Shine from Within – พัฒนาทักษะ Soft Skill และ EQ

Soft skill สำคัญมากในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามา สิ่งเหล่านี้สำคัญมาก

• การพูดให้รู้เรื่อง สื่อสารเข้าใจ
• EQ สำคัญกว่าเกรดเฉลี่ย (GPA) การควบคุมอารมณ์ของตนเองได้คือสิ่งสำคัญ
• Resilience ความไม่ยอมแพ้ 

คนที่ “เก่งงานและเก่งคน” จะเป็นคนที่โลกการทำงานยุคใหม่ต้องการที่สุด

3. Step Beyond the Line – พื้นที่ที่เติบโตมักเริ่มต้นด้วยความไม่สบายใจ 

เวลาเจอสถานการณ์ที่ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ เราต้องถามตัวเองว่าเรารู้สึกยังไง มองว่าเป็นเรื่องที่ทำให้รู้สึกกังวล ท้าทายหรือตื่นเต้น 

มนุษย์เราจะเติบโตได้ก็ต่อเมื่อเราก้าวออกจาก Comfort Zone แทนที่เราจะมองว่าความรู้สึกเหล่านี้เป็นแง่ลบ ให้เรามองมันว่าเป็นสัญญาณของการเติบโต

เช่น เวลา “กวางเจอสิงโต” ต่างฝ่ายต่างจะมีความรู้สึกที่ไม่เหมือนกัน 

กวางจะรู้สึกเครียด เพราะ “ความกลัว” ที่จะถูกล่า

สิงโตจะรู้สึกเครียด เพราะ “ท้าทาย” ว่าจะได้กินกวางไหม

คำถามคือมนุษย์คล้ายอะไร?

คำตอบ คือ กวาง เพราะในอดีตเราเป็นผู้อ่อนแอในห่วงโซ่อาหาร

เราจึงต้องฝึกมองโลก เปลี่ยนมุมมองต่อการเจอความกลัวและความผิดหวังแบบกวาง ให้กลายเป็นมุมมองแบบสิงโตที่ไม่กลัวต่อความท้าทาย

ทุกครั้งที่เจออุปสรรคหรือความไม่สบายใจในชีวิต ถ้าเราไม่กล้าเผชิญหน้าและออกจากพื้นที่ปลอดภัย เราก็จะไม่มีวันเติบโต 

และสุดท้ายคุณแท็ปได้พูดปิดจบว่า “งานทุกงานไม่ใช่งานในฝัน แต่มันเป็นครูที่ดี”

เรามาทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งเราต้องได้อะไรกลับไป เราต้องเก่งขึ้น ถ้าคิดแบบนี้แล้ว

“งานทุกงานเป็นครูสอนเราได้หมด”