ใครอยากปั้น Portfolio ไม่รู้จะใช้เครื่องมือไหนอยู่บ้าง 🙋🏻‍♀️

ขอแนะนำ Framer (www.framer.com) 👩🏻‍💻

🔵 เครื่องมือออกแบบและสร้างเว็บไซต์ได้จริงแบบไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ด ซึ่งเหมาะกับสาย UX/UI Design มาก ๆ เพราะหน้าตาเครื่องมือจะมีความคล้ายกับ Figma เรียกได้ว่า หากใช้ Figma คล่องแล้ว ยังไงก็สามารถใช้ Framer ได้ไม่ยากเลย!

🔵 Framer ยังมี Template และ Animation ให้เลือกใช้มากมาย และผลงานที่คุณออกแบบบน Framer ยังสามารถ publish เป็นเว็บไซต์ได้ด้วย หากนำไปปรับใช้ในการทำเว็บไซต์แสดงผลงาน UX/UI Portfolio จะทำให้โดดเด่นตอนยื่นสัมภาษณ์งานแน่นอน

ซึ่งในหลักสูตร UX/UI Bootcamp รุ่น 7 ที่ผ่านมานี้ ❗️

นอกจากการเรียนรู้พื้นฐานครบทั้งกระบวนการ UX/UI และการลงมือทำจริงผ่าน Group Project ให้นักเรียนได้สะสมผลงานกันแล้ว เรายังจัด Session พิเศษให้นักเรียน UX/UI Bootcamp ทุกรุ่นได้เรียนรู้การทำ Portfolio Website

⭐️ โดยใช้เครื่องมือ Framer แบบ Step by Step กับอาจารย์มารัช Design Technologist, Muang Thai Life มารัช ดีไซน์ – marach.design

โพสต์นี้ขอเอา 3 หลักการใช้ Framer ในการทำ Portfolio Website ง่าย ๆ มาฝากทุกคนกัน

1. สร้าง Style ที่จะใช้เป็นองค์ประกอบหลักของผลงานบน Framer เอาไว้เลย เช่น Text Style, Color Style ซึ่งจะช่วยให้การออกแบบของคุณง่ายมากขึ้น และมีรูปแบบที่สม่ำเสมอกันในทุก ๆ ส่วน

2. สำหรับเว็บไซต์ที่มีเนื้อหา Content เยอะ ถ้าคุณต้องมานั่งสร้างทีละหน้า และอัปโหลดรูปภาพประกอบในทุก ๆ อัน คงวุ่นวายมาก ๆ แต่บน Framer มี Content Management System (CMS) ที่สามารถสร้าง Template การกรอกข้อมูล และดึงข้อมูลจาก CMS มาแสดงผลบนหน้าเว็บไซต์ได้เลย

3. การทำ Portfolio Website บน Framer สามารถทำ Responsive ได้ตั้งแต่ตอนออกแบบเลย ซึ่งจะทำให้เห็นว่างานออกแบบของคุณมีการจัดเรียงเนื้อหาอย่างไร มีหน้าตาอย่างไร บนหน้า Desktop, Mobile และ Tablet

การสร้างผลงานใส่ Portfolioให้โดดเด่น ไม่ใช่มีแค่เครื่องมืออย่าง Framer ที่คุณต้องเรียนรู้ แต่การสะสมผลงานลง Portfolio

จากการลงมือทำจริง จะช่วยให้คุณได้มีโอกาสเข้าตา Recruiter ถูกเรียกสัมภาษณ์มากขึ้น

สำหรับใครที่อยากเรียนรู้ครบเริ่มจาก 0 ไปจนถึงการปั้น Portfolio พร้อมย้ายสายเป็น UX/UI ลงทะเบียน Bootcamp ได้เลย ที่นี่

More in:Design

Comments are closed.