“เรื่องของเรื่อง ที่ไปเรียนก็เพราะอยากจะคุยกับคนสาย Tech ให้รู้เรื่อง แค่นั้นเอง”
วันนี้เราได้มาพูดคุยกับคุณชัคพัฒน์ นัสการ หรือพี่ชัค CEO จาก Thinkmate Business Advisory และ CFO จาก Tourkrub
ซึ่งเป็น Alumni จากโปรแกรม Digital Leadership Bootcamp (DLB) รุ่นที่ 1 ที่บอกว่าคอร์สนี้เองที่ทำให้เขาคุยกับคนสาย Tech ได้รู้เรื่องเสียที
“จากที่เป็นคนสนใจเรื่อง Technology อยู่แล้ว พอได้เห็นโฆษณาของคอร์สนี้ ก็ตัดสินใจได้ไม่ยากเลย ที่จะลองสมัครเข้ามาเรียนดู”
เราเองเคยเข้าเรียนมาหลายโครงการแล้ว และอยากให้ทุกอย่างดูเรียบง่าย ก็เลยสมัครเข้ามาในนามบริษัทตัวเอง ว่าเราทำบริษัทที่ปรึกษาธุรกิจเล็กๆ นะ ไม่ได้หวือหวาอะไร เพราะเหตุนี้ การเรียนสัปดาห์แรกๆ เราก็เลยโฟกัสไปที่การเรียนมากกว่าสร้าง connection กับเพื่อนร่วมห้องเรียน แต่แล้วก็เกิดเรื่องโป๊ะแตกขึ้นมาจนได้
“ใครจะคิดว่า DLB จะไปดึง case จริงๆ ของบริษัท startup ที่เราช่วยทำอยู่ ขึ้นมาเป็นโจทย์กลางซะงั้น”
อีกหนึ่งบทเรียนที่เรียกว่าเป็น highlight ของ DLB คือ Design Sprint ซึ่งก็ไม่ได้มาเล่นๆ เมื่อทีมงาน Skooldio ไปหยิบเอาโจทย์ทางธุรกิจจริงๆ ของบริษัท startup เจ้าหนึ่งขึ้นมาทำ แต่ความตลกก็คือ บริษัทนี้เป็นบริษัทที่เราไปช่วยดูแลด้าน finance โดยเราสวมหมวกเป็น CFO ให้อยู่
เมื่อความจริงปรากฏ ด้านหนึ่ง ก็เป็นที่รู้จักของเพื่อนๆ ร่วมห้องเรียนมากขึ้น มีการสนทนากันมากขึ้นทั้งในเรื่องโจทย์กลางที่ต้องแก้ และธุรกิจต่างๆ ที่เราทำ ตรงนี้ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเราและเพื่อนๆ สนิทสนมมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่อีกด้านหนึ่ง จากโจทย์ที่ DLB นำมาแก้ ก็ช่วยให้เราเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน
“จากเดิม ที่เราเคยดูแต่งานด้านการเงิน ถึงตอนนี้เรามองได้กว้างขึ้น และเข้าใจทั้งกระบวนการมากขึ้น”
จากโจทย์ที่เพื่อนๆ ในรุ่นทุกคนช่วยกันแก้ ผ่านกระบวนการที่ DLB วางไว้ให้ แน่นอนว่ามันช่วยให้ startup ที่เราทำ สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดได้เลย ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องดี แต่สิ่งที่เรารู้สึกว่า เราได้เติบโตขึ้นมาจากเดิมอย่างเห็นได้ชัดเลยก็คือ การมองเห็นธุรกิจจากมุมมองของคนอื่นได้ชัดขึ้น
จากพื้นฐานที่เราทำงานสายการเงินมาโดยตลอด แต่ต้องทำงานกับบริษัท tech หลายครั้งเราไม่เข้าใจว่า สิ่งที่ทีมอื่นเขาทำกันอยู่นั้น เขาทำไปทำไม ทำไม่ต้องออกไปทำ focus group หลายครั้ง ทำไมต้องทำ marketing หลายแบบ ทำไมต้องทดสอบ product หลายรอบ แต่พอเราได้เรียนรู้จาก DLB แล้ว เราก็เข้าใจเลยว่า สิ่งต่างๆเหล่านั้นให้อะไรกลับมา และนั่นทำให้เราสามารถสนับสนุนพวกเขาได้ดีขึ้น
“สิ่งที่ได้มากกว่า คือการช่วยเชื่อมโยงจุดต่างๆ ในแต่ละทีม ให้เข้ากันอย่างลงตัว”
ในบริษัท startup ที่เราทำ จะมีทีมงานอยู่หลักๆ 3 ด้าน คือ Tech, Marketing, และ Finance ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีนั้น ต่างฝ่ายต่างก็ทำแต่งานของตัวเอง มีเป้าของตัวเอง แต่เมื่อตัวเรา ที่ผ่าน DLB มาแล้ว ก็เริ่มเข้าใจงานของทีมอื่นมากขึ้น เราก็จะเริ่มให้คำแนะนำทีมอื่นๆ ได้เต็มปากมากขึ้น
คนที่เขากล้าคุย เขาก็จะวิ่งเข้ามาหาเรามากขึ้น ปรึกษาเรามากขึ้น และได้ร่วมกันทำงานบนเป้าเดียวกันมากขึ้น
การทำให้เป้าของแต่ละทีมตรงกันแบบนี้ เรารู้สึกว่ามันเป็นผลดีกับธุรกิจโดยรวมมากขึ้น เช่น จากเดิมที่เวลาน้องๆ ไปคุยกับลูกค้าเยอะๆ แล้วมีค่าใช้จ่ายต่างๆ เกิดขึ้น คนที่ดูแลด้านการเงิน ก็จะไม่เข้าใจ ทำไมต้องไปคุยกับลูกค้าขนาดนี้ เสียเงินยิบย่อยแบบนี้คุ้มรึเปล่า? แต่ตอนนี้ เราได้เห็นถึงความสำคัญของการคุยกับลูกค้า และความคุ้มค่าของการได้รับ Feedback เพื่อมาพัฒนา Product เราให้ดีขึ้น แล้วก็จะรู้สึกพร้อมที่จะเตรียมงบเพื่อสนับสนุนงานของน้องๆ มากขึ้น
ในทางกลับกัน หากเราให้คำแนะนำว่าการทดสอบสินค้าของทีม Tech หรือการลงโฆษณาของทีม Marketing นั้นไม่คุ้มค่ากับการลงทุน ทีมเหล่านั้นก็รับฟัง และเข้าใจในมุม business มากขึ้นเช่นกัน ซึ่งเรารู้สึกว่าการที่เราเรียนมาแล้วทำได้เท่านี้ CEO ยอมรับและเข้าใจแบบนี้ ก็เพียงพอแล้ว
“ทุกสิ่งทุกอย่าง เริ่มต้นที่ mindset”
หากจะฝากถึงคนที่กำลังคิดว่าจะสมัครรุ่นที่ 2 ดีหรือไม่ อยากบอกว่า มันไม่จำเป็นเลยว่า คุณต้องมี background ด้าน Tech อย่างเดียว ถ้าอย่างน้อยคุณมีใจว่า Tech จะพาเราไปสู่อนาคต และเปิดใจออกมาทำความรู้จักมัน สิ่งนี้ต่างหากที่สำคัญ
คนชอบพูดเรื่อง digital transformation กันเยอะ แต่สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะทำกันง่ายๆ อย่าคิดว่าจะใช้เวลา 3-4 เดือนก็ทำได้แล้ว หรือมาเรียนจบเพียงแค่ 1 หลักสูตรแล้วจะกลับไปทำได้เลย อันนั้นมันเป็นไปไม่ได้ แต่การเรียนคอร์ส Digital Leadership Bootcamp หรือ DLB นี้จบ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของคุณ ที่จะเอาไปต่อยอดกับธุรกิจของคุณได้อย่างแน่นอน
ไม่ว่าจะมาจากสายไหน การรู้เรื่อง Tech และวิธีการทำงานแบบใหม่เป็นเรื่องสำคัญ หลักสูตร Digital Leadership Bootcamp รุ่นที่ 3 โปรแกรมสำหรับผู้นำองค์กรยุคดิจิทัลที่คุณไม่ควรพลาด
เรียนรู้และรับคำแนะนำอย่างใกล้ชิดจากผู้เชี่ยวชาญตัวจริง ที่จะช่วยพัฒนาทักษะของผู้นำยุคดิจิทัลที่คุณนำไปใช้ได้ทันที รู้ลึก ลงมือทำ และทำผลิตภัณฑ์ออกมาได้จริง!
ตลอดหลักสูตร 12 สัปดาห์ ทุกวันศุกร์ ตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน – 2 ธันวาคม 2565