KBTG - pmat-2 | Skooldio

สรุป Session The Next Thai Advantage โดยคุณ กระทิง เรืองโรจน์พูนผล – GROUP CHAIRMAN KASIKORN BUSINESS TECHNOLOGY GROUP ( KBTG ) ในงาน Thailand HR Tech 2025 จัดโดย PMAT – Personnel Management Association of Thailand

คุณกระทิงได้สรุปไว้ว่า เรากำลังก้าวไปอยู่ในยุค Agentic AI และต่อไปจะเป็น Physical AI โดยตอนนี้ในฝั่งจีนจะมี Physical AI เยอะมาก และอีกไม่นานจะก้าวกระโดดไปอีกครั้ง โลกในตอนนี้ กำลังถูกขับเคลื่อนด้วย Knowledge Economy และต่อไปจะเป็น Commodity ทว่าในขณะเดียวกัน Trust เป็น Scarcity สำหรับ AI นอกจากนี้ยังมีผลสำรวจมากกว่า 60% ของ CEO บอกว่า AI จะเปลี่ยนการทำงานจากหน้ามือเป็นหลังมือ

ตอนนี้ AI อยู่ในจุดที่เราใช้งานได้เทียบกับ Junior Co-worker แต่อย่าไปคิดว่าเหมือนคน ต้องเทียบว่าเขาเหมือนเอเลี่ยน ฉลาดมาก เก่งมาก แต่ก็ไม่ใช่ Human อยู่ดี

Key ในการ Success ยุคนี้ก็ยังเป็น Human

คุณกระทิงได้เล่าให้ฟังว่าเขาได้เยี่ยมชมโรงงาน Jewelry แห่งหนึ่งเพื่อดู Operation หลายอย่าง แต่ AI ยังไม่สามารถตัดสินใจได้เท่ามนุษย์ในปัจจุบัน เร็วสุดถ้าจะตัดสินใจหรือทำงานได้แทนมนุษย์น่าจะใช้เวลาอีก 5 ปี 

ในตอนนี้ AI อาจจะเริ่มทำ Reasoning พื้นฐานได้จริง แต่ก็ยัง Take Action อะไรไม่ได้ ภาพที่เห็นชัดที่สุดคืออนาคตมนุษย์จะเป็นผู้ใช้งาน และ Orchestrate AI กับมนุษย์

องค์กรในอนาคตจะเหลือแค่ 3 Layers

  • Executive

  • AI Agent/Middle Manager

  • AI Agent/Human

สำหรับการจ้างงานในยุค AI คุณกระทิงได้พูดถึงการจ้างงานว่าต่อไปจะไม่มี Job Title และไม่มี Head Hunter แล้ว แต่จะเป็น Skill Hunter แทน โดยการหางานจะแบ่ง Role มาเป็นสกิล อันไหนที่ AI ทำได้ ก็จะใช้ AI แต่ถ้างานไหนที่ใช้คนทำได้เท่านั้น ถึงจะใช้คนทำ

คุณกระทิงได้เสริมแนวคิดว่า ‘Always Bring AI On The Table, Keep Human In The Loop’ ในการที่คุณจะเป็น ‘Best Human In The Loop’ เราต้องใช้ AI จนจับได้ว่ามันมีข้อผิดพลาดอะไร

อีกประเด็นที่น่าเป็นห่วงคือ AI ทำให้เราลด Cognitive Ability ลง ดังนั้นวิธีใช้ที่ดีคือให้ใช้ AI จนเจอข้อผิดพลาดของ Tools นั้น ๆ สิ่งสำคัญคือความ Creative กับ Analytical skill โดยเฉพาะทักษะการ ’เอ๊ะ’ ที่จะทำให้ AI ไม่ทำให้เราหลงทางไปกับคำตอบของ AI

คุณกระทิงได้แนะนำว่าให้ ‘Assign Role for AI as Your Companion’ และที่สำคัญ AI ที่เจ๋งที่สุดที่เราใช้อยู่ในตอนนี้ คือ AI ห่วยที่สุดในอนาคต 2-3 ปีข้างหน้า

อนาคตจะต้องใช้ทั้ง Predictive AI + Generative + Agentic AI 

HR เป็นคนสำคัญที่สุด อย่างบริษัทคุณกระทิงก็จะให้ HR เป็นหนูทดลองเสมอ เพราะถ้า HR เปลี่ยนตัวเองไม่ได้ แล้วจะเปลี่ยนคนอื่นได้อย่างไร

รีบรู้อะไรที่ไม่รู้ว่าไม่รู้

Agentic สามารถแตก Task เป็นเรื่องย่อย ๆ เรียนรู้ ตัดสินใจ พัฒนาได้ จริงอยู่ที่ทุกคนพอรู้เรื่องนี้แล้ว แต่จุดสำคัญที่เราควรพัฒนาตัวเองต่อ คือเราควรรู้ว่าเราไม่รู้อะไร คุณกระทิงได้ยกตัวอย่างเรื่อง ’เขาแห่งความโง่เขลา’ หรือ ‘Dunning-Kruger Effect’ เราต้องหาให้ได้ว่ามีเรื่องอะไรบ้างที่เราไม่รู้ว่าเราไม่รู้ เมื่อเราทำได้ เราจะเป็นบัวเหล่าที่ 1

คุณกระทิงกล่าวว่า KBTG ทำเรื่อง AI ตั้งแต่ 2019 ตั้งแต่ Data-Driven, Automation-First ทำมาจนเขารู้ว่า จริง ๆ แล้วควรเป็น Human-First X AI-First Transformation ต้องเอา Human ขึ้นมาก่อนเสมอ เพราะคนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

Vision คือความเป็นจริงที่ยังไม่เกิด ต้อง Keep Pushing

AI ไม่ใช่กระสุนเงิน ทุกอย่าง AI ไม่ได้แก้ได้หมด ตอนนี้ AI เป็นเหมือนตอนที่ Blockchain มาใหม่ ๆ ที่คนมักเข้าใจผิดว่ามีปัญหาอะไรก็ใช้ Blockchain แก้ได้ทุกอย่าง 

เขาเล่าต่อว่า สิ่งสำคัญที่ทำให้เขาทำได้คือการไปเรียนรู้เพิ่มเติม เขายกตัวอย่างตัวเองว่า แม้จะทำงานสายนี้มาแล้ว 18 ปี แต่ก็ยังตัดสินใจไปเรียนอัปสกิลเป็นเวลา 6 เดือน ถึงแม้เขาจะเคยเรียนมาก่อน แต่สิ่งที่เรียนในเดือนกันยายนปีที่แล้ว 30% กลับใช้ไม่ได้แล้ว เขาจึงให้ความสำคัญกับการเรียนใหม่ตลอดเวลา

อีกอย่างที่สำคัญคือการสร้าง Mindset ให้องค์กรพร้อมกับเรื่อง AI และสร้างองค์กรที่เป็น Learning Organization เปลี่ยนจาก Chaos ไปเป็นการสร้าง Clarity

70% ของการ Transformation นั้นล้มเหลว เพราะเรายึดติดกับเครื่องมือมากเกินไป

สิ่งที่เราต้องเตรียมให้ดีคือ

  • Road map
  • Talent
  • Operating model
  • Tech
  • Data
  • Adoption and scaling

เริ่มที่ตั้งยุทธศาสตร์ให้ถูกต้อง วางแผนให้ดี เพราะถ้ากระดุมเม็ดแรกผิด Value จะ Loss ทันที จะทำให้ Scale AI Impact 

Use Case ของ AI ที่องค์กรควรเริ่มพิจารณา

  • Productivity: ใช้ AI ลดเวลาในการทำงานซ้ำ ๆ เพิ่ม ฯutput ต่อคน
  • Agentic Workflow: ให้ AI ตัดสินใจหรือทำงานแทนได้บางส่วน
  • Customer Experience & Engagement
  • New Business Model

คุณกระทิงกล่าวว่าเขาลงทุนใน Startup จำนวนมาก และในปีนี้ AI Native Startup สามารถ Scale ได้เร็วมาก ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี

3 key areas of strategic focus ที่ไทยต้องทำให้ได้

  • Infrastructure
  • Governance
  • Talents

“ถ้ามีสองอย่างแรกดี Talent ก็จะสร้างความมหัศจรรย์ให้เอง” 

Talent คือสิ่งที่สำคัญที่สุด ดังนั้น ในฐานะ HR จะต้องเตรียมองค์กรให้เป็น AI -Ready

นอกจากนี้ สิ่งที่เขาเน้นคือ ตอนนี้ประเทศไทยต้องข้ามจากจุด AI-Aware ไปให้ได้ และต้องเปลี่ยนบทบาทจาก User ให้กลายเป็น AI Builder พร้อมทั้งผลักดันให้มี AI Master เกิดขึ้นในประเทศ โจทย์คือการ ขยับประเทศไทยไปสู่ ‘AI Mastery’

ประเทศไทยยังเป็น “ผู้ใช้” ของบริการดิจิทัลจากต่างชาติ ถึงเวลาแล้วที่เราต้องเปลี่ยนจาก Consumer มาเป็น Builder สร้างของเราเอง เช่น open source

ในอนาคต ทุกองค์กรจะต้องมี AI Governance Officer และไม่ต้องกลัวว่าจะตกงาน เพราะตำแหน่งนี้จะกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในทุกหน่วยงาน เช่นเดียวกับที่เราต้องการใช้ AI สู้กับ AI เพื่อควบคุมความเสี่ยงจากการใช้เทคโนโลยีที่เร็วเกินกว่ากฎหมายหรือแนวปฏิบัติจะตามทัน

AI Governance ที่ดี ต้องมี “มนุษย์เป็นศูนย์กลาง” 

และยึดหลักสำคัญ 4 ข้อ ได้แก่ Empathy, Accountability, Transparency และ Bias Control

Soft Skill เป็นสิ่งที่สำคัญมากขึ้นในยุคของ AI

จาก World Economic Forum 2025 ที่ผ่านมา น่าเหลือเชื่อที่ 1 ทักษะที่ CEO ต้องมีเพิ่มขึ้นคือ ‘การมีอารมณ์ขัน’ เวลาเผชิญความท้าทายต้องทำให้ทุกคนรู้สึกว่าองค์กรไม่เครียดจนเกินไป เพื่อให้เกิดเป็น Positive Working Environment ให้กับองค์กร 

Triangle of Mindset

  • Adaptive
  • Futuristic & Ambitious
  • Empathic 

เมื่อ Mindset พร้อมแล้ว ต้อง “Take Action” ทันที

เพราะการมีทัศนคติที่ดีอย่างเดียวไม่พอ ต้องลงมือเปลี่ยนจริงในทุกระดับขององค์กร

คุณกระทิงปิดท้ายว่าวิกฤตช่วงนี้เยอะแต่โอกาสก็มีมากมายสำหรับคนที่พร้อม อย่าเสียศรัทธาและความหวังในตัวคุณเองและอนาคตที่คุณสร้างได้ด้วยตัวคุณเอง

หากคุณคือเจ้าของธุรกิจที่อยากใช้ AI มาช่วยทำงานด้านการตลาด ห้ามพลาดกับ Generative AI for Marketing Transformation
– ประยุกต์การใช้ GenAI กับงานผลิตคอนเทนต์ และการตลาด พร้อมสอนการทำ Automation ที่เมื่อเรียนจบคุณจะสามารถ
– เขียน Prompt ให้ได้รับผลลัพธ์ ที่ต้องการ และเริ่มต้นใช้งาน GenAI ใน Marketing Workflow เพื่อเพิ่ม Productivity
– สามารถใช้ GenAI สร้าง คอนเทนต์ ได้หลายรูปแบบ เช่น สร้างข้อความ รูป และวิดีโอ ให้เป็นคอนเทนต์ที่ดี และประหยัดเวลาได้
– สามารถประยุกต์ใช้เครื่องมือ Automation ร่วมกับ GenAI สำหรับการทำคอนเทนต์โดยเฉพาะ เพื่อลดงาน Routine และลด Human Error
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่คอร์ส Generative AI for Marketing TransformationGenerative AI for Marketing Transformation | Skooldio

More in:AI

Comments are closed.