“เรื่องดี ๆ ที่เราทำ ไม่ต้องพูดเอง ปล่อยให้มันเป็น word of mouth บ้าง ต้องอยู่ให้เป็น”

รุป Session ทำไมต้องอยู่เป็น ในสมรภูมิการเมืองออฟฟิศที่เป็นอยู่ โดยนาวาอากาศตรีศิธา ทิวารี, คุณธนา เธียรอัจฉริยะ และคุณรวิศ หาญอุตสาหะในงาน Mission To The Moon Forum 2024 : Work-Life Survival Guide

ทำไมเวลาคนมารวมตัวกันเยอะ ๆ ต้องมีการเมืองเกิดขึ้น

🔸 Polictics จริง ๆ แล้วเกิดเมื่ออยู่รวมตัวกัน 2 คนขึ้นไป ในที่นี้คือโฟกัสถึงข้อตกลง เพื่อให้อยู่ร่วมกันให้ได้ และคนที่อยู่ต้องปรับตัวให้เข้ากับระบบ

🔸 Politics ตามพจนานุกรม คือ การรวมกลุ่มเพื่อตัดสินใจ (ไม่ได้บอกว่าดีหรือไม่ดี) เพราะฉะนั้น ‘ที่ไหนมีการตัดสินใจ ที่นั่นเลยมีการเมือง’ แต่ Politics เยอะ มักจะเกิดตอนบริษัทสงบ ราบรื่น และ Politics น้อยเมื่อเกิดวิกฤต เหมือนกับคำที่ว่า ยามศึกเรารบ ยามสงบเราชอบทะเลาะกันเอง

นิยามคำว่าการเมืองเปลี่ยนไปหรือไม่ในอายุวัยที่ต่างกัน

🔸 ขึ้นกับว่าเรานิยามคำว่าการเมืองแบบไหน – บางคนให้นิยามว่าการเมืองคือ การมี hidden agenda การมีผลประโยชน์แอบแฝง บ้างก็ว่าคือการเมืองที่ทำงาน

🔸 คำว่า “อยู่เป็น” ไม่ใช่คำในแง่ลบเสมอไป แต่คือคนที่ balance เป็น – อย่างทักษะการเป็นหัวหน้างานในแต่ละระดับก็ต่างกัน ทั้งเก่งงาน เก่งคน เก่งคิด ซึ่งถ้าเราไม่สามารถปรับตัวเองให้เข้ากับ 3 ส่วนให้ได้ มันถือเป็นการบังคับผู้บังคับบัญชาให้เลือก จะเอาคนเก่งงานแต่ไม่เก่งคน หรือจะเอาคนพูดเก่งแต่ทำงานไม่เก่ง แทนที่เราจะเป็นคนเหล่านั้น เราต้องเป็นคนที่พร้อมกับกฎเกณฑ์ขององค์กร หรือเรียกว่า “อยู่เป็น”

🔸 มุมมองเปลี่ยนไปตามประสบการณ์ – เมื่อก่อนพี่โจ้เติบโตเร็วมากในองค์กร ความฝันคือมีห้องใหญ่ มีรถประจำตำแหน่ง เลยทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เติบโต แม้กระทั่งทำในสิ่งที่อาจจะดูไม่ค่อยดี ดูเป็นการเมืองในบริษัท จนไม่ได้เลื่อนขั้นเลยตัดสินใจลาออก ย้ายบริษัทไปแต่ไม่ได้เป็นไปตามหวัง ซึ่งประสบการณ์ครั้งนั้นสอนให้ได้คิด ทำให้ได้รู้ว่าจริง ๆ แล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดคือคน คนที่เราดีด้วย เค้าจะดีกับเราตอบ สุดท้ายเลยกลับมาโฟกัสที่ผู้คนแทนสิ่งของ ทำอย่างไรให้น้อง ๆ ได้เติบโตแทน

🔸 ถ้าเรานิยามการเมืองว่า ทำอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ ด้วยการทำให้องค์กรได้ดี แล้วนั่น align กับเป้าหมายขององค์กร มุมมองของเราจะเปลี่ยนไป และการกระทำของเราจะเปลี่ยนไปด้วย

เมื่อไหร่ที่เป็นสัญญาณว่าบริษัทหรือทีมของเรากำลังมีการเมืองมากไป

🔸 ทำเยอะ แต่ของไม่ออก ไม่มี output เพราะมัวแต่ตีกันเอง ต่างคนต่างกั๊ก
🔸 เมื่อกระบวนการในการบริหารจัดการ ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ขององค์กร

จัดการเรื่องการเมืองในองค์กรอย่างไร

🔸 ทุกคนต้องยึดเอาวัตถุประสงค์ขององค์กรเป็นหลัก
🔸 ผู้นำต้องมี empathy กับลูกน้อง ในขณะเดียวกันพนักงานในองค์กรต้องรู้ว่ากฎเกณฑ์ในองค์กรคืออะไร และใครมีน้ำหนักในการตัดสินใจ

เวลาน้อง ๆ มาเล่าเรื่องให้ฟัง จะกรองหาความจริงจากเรื่องราวได้อย่างไร

🔸 มองในระยะยาว อย่างแรกเริ่มจากการรับพนักงานระดับ A เข้ามาก่อน แต่คนชอบกลัวการรับแบบนี้ เพราะกลัวคนที่เข้ามาดีกว่าเรา หรือเราอาจไม่มีสเน่ห์พอให้ A มาทำงานกับเรา

🔸 จากนั้นสนับสนุนให้ A Player ขึ้นมาเป็นหัวหน้า คนแบบนี้จะหา A มาเติมเรื่อย ๆ เพื่อทำให้องค์กรเรามีแต่คนเก่งที่ Align กับเป้าประสงค์ขององค์กรและทำให้องค์กรพัฒนาก้าวไปข้างหน้า ราวกับ “การปลูกต้นไม้ A”

🔸 เมื่อองค์กรเรามีแต่ A Player ก็จะแต่เรื่องที่ถูกต้อง เป็นจริง และ Politics จะลดลงตามธรรมชาติ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การทำแบบนั้นได้นั้นต้องอาศัยระยะเวลา

ในฐานะพนักงานหรือคนในองค์กร จะทำอย่างไรให้อยู่รอดและเติบโต ในองค์กรที่(การเมือง)ซับซ้อน

🔸 สร้างภาพจำและ identity ที่ดีตั้งแต่แรก สร้าง personal branding ไประหว่างทาง เพื่อสร้างความไว้ใจให้คนรอบตัว และทำให้คนหยิบยื่นโอกาสมาให้ เหมือนกับการปลูกต้นไม้ในใจคน

🔸 ตัวอย่างเช่น หัวหน้าที่กล้าออกรับผิดแทนลูกน้อง ก็ถือเป็นการซื้อใจลูกน้อง แม้จะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับหน้า แต่ถือเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ประทับอยู่ในใจลูกน้อง

🔸 เช่นเดียวกับการนำเสนองานที่ดี ต้องมีทั้ง Logical + Emotional + Credit ของผู้พูด ซึ่งข้อหลังต้องสร้างมาตั้งแต่เนิ่น ๆ

🔸 Tight-Loose-Tight ตั้งเป้าหมายชัด ปล่อยให้วิธีการเป็นเรื่องที่ทีมตดสินใจ และกำหนดวิธีการวัดผลให้ชัด

🔸 Bring Clarity + Energy + Success เน้นความแม่นยำ ทำให้ทีมมีพลังและพาไปสู่ความสำเร็จ

ฝากอาวุธติดตัวคนทำงาน เพื่อให้โตไปเป็นคนประสบความสำเร็จ

🙋🏻‍♂️ รู้ลึกรู้จริง! – เพราะรู้แบบเป็ดไม่พออีกต่อไป แต่ต้องรู้ลึกในสาขาที่เราทำงาน และจะยิ่งดีถ้ารู้หลายด้าน แม้จะเป็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ตาม ให้สามารถเป็น “ผู้นำตามสถานการณ์” โดยไม่ต้องสนใจขอบเขตงาน

🙋🏻‍♂️ มีกัลยาณมิตรที่ดี – ทำให้เราถูกห้อมล้อมด้วยคนที่พร้อมส่งเสริมเรา ทั้งเจ้านาย mentors เพื่อนร่วมงานและลูกน้อง ต้องเป็นน้ำไม่เต็มแก้ว พร้อมเรียนรู้ ทำให้คนอยากสอน อยากให้คำแนะนำ พร้อมทั้งเป็นหัวหน้าที่ดีให้น้องอยากทำงานด้วย

มอง Politics เป็นคน และมองหาว่าทำอย่างให้เราชนะใจคนรอบข้างได้ เพื่อให้เราสามารถอยู่ในสมรภูมิการทำงาน ที่ห้อมล้อมไปด้วยกัลยาณมิตรที่ดี (และที่ที่เราสามารถเป็นกัลยาณมิตรที่ดีให้คนอื่นได้ด้วยเช่นกัน)

#missiontothemoonforum2024
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#Skooldio 

More in:Business

Comments are closed.