“บริษัทไหนมี 3A นี้ เด็กรุ่นใหม่ก็อยากทำงานด้วย เพราะโอกาสรอดสูง-งาน Routine น้อย-สร้าง value ให้บริษัทได้”

ในยุคที่ AI จะครองโลก ทำยังไงให้ AI และบริษัทรอดพ้นจาก AI และโตไปด้วยกัน

สรุป session: Talent Empowerment :Balance of Tech & People for Resilience โดยคุณณภัทร จาตุศรีพิทักษ์ CEO, ViaLink และกรรมการผู้จัดการแห่งสถาบันอนาคตไทยศึกษา ในงาน Thailand Learning & Development Forum 2024 โดย PMAT – Personnel Management Association of Thailand

🔸 Talent Empowerment คือเรื่องที่สำคัญสุด

คุณณภัทรเล่าว่าเมื่อปีก่อนมีเด็กฝึกงานมาพร้อมกับเด็กฝึกงาน “สายพันธุ์ใหม่” 20$ ต่อเดือน นั่นคือ AI ChatGPT จ่ายเงิน 700.- ต่อเดือน อีกคนไม่มีประสบการณ์ 700.- ต่อวัน

สอดคล้องกับคนเขียนหนังสือ Sapiens บอกว่าถึงจุดจบของ Human History แล้ว หลังจากนี้จะเป็นมนุษย์หุ่นยนต์เขียน

ตอนนี้ GPT-4 ออกมามันสอนเด็กได้ สอนกระทั่งเรื่องยาก ๆ อย่างตรีโกณมิติได้ อนาคตเด็กจะเรียนกับมันมากกว่าครู

🔸 แล้วสรุป AI ทำอะไร ‘ไม่ได้’ บ้าง ?

วันก่อนหุ้น Disney ตกไป 10% ทั้งที่ Disney+ ยังทำกำไร พอคุณนภัทรถาม AI ดูว่าทำไมหุ้นถึงตก มันตอบได้ออกมาเป็น 6 เหตุผลแล้วมีลิงก์ไปที่ข่าวนั้นด้วย นอกจากนั้นยังทำ value DLS และใช้ DCF ได้อีก

ถ้า AI ทำได้ขนาดนี้ แล้วพนักงานที่อยู่ในสายนี้จะแข่งกันยังไง ?

อีกตัวอย่างคือ ปกติบอร์ดเกมใช้ต้นทุน 60k-80k $ แต่บอร์ดเกม Ninja Unleashed ทำเสร็จ 2 เดือนในราคา 1000$ ด้วย Midjourney

หรือ Sora AI ที่ป้อน text เข้าไปก็จะได้วิดีโอออกมา อีกหน่อยการทำหนัง คอนเทนต์จะเปลี่ยนไป แม้ว่าต้องมีคนอยู่ แต่ไม่ได้เยอะขนาดเมื่อก่อนแล้ว

พูดเรื่องของ ‘คน’ โดยเฉพาะงาน service อย่าง Consulting มันยาก แล้วไม่ใช่พนักงานทุกคนจะทำได้ทุกอย่าง เก่งและยุ่งไม่เท่ากัน ดังนั้นบอก AI ว่าน้องแต่ละคนเก่งอะไร ใครยุ่งไม่ยุ่ง มันจะให้ AI กระจายงานให้ เก่งกว่า Project Management อีก

“เพราะงั้นงานด้านบริหาร AI ก็ทำได้ไม่เลวเลย”

🔸 3 ขุมพลังเศรษฐกิจ AI
1️⃣ “เครื่องจักรผลิตภาพ”​ : input น้อย แต่ผลิตได้เยอะ หรือพูดง่าย ๆ คือ resource เท่าเดิมแต่ทำงานออกมาได้เยอะขึ้น เพราะงั้นมันจะช่วยพนักงานได้เยอะขึ้น มีเวลาไป add value ให้บริษัทมากขึ้น และ output ของบริษัทก็เยอะขึ้น ดังนั้นอย่ามองว่า AI เป็นแค่ another software ให้ดูว่าเอา AI มาเพิ่ม productivity กับองค์กรในจุดไหนได้บ้าง

2️⃣ “ทุนปัญญา” ที่ไม่มีวันหมด : AI free version ยังดูไม่เก่งตอบได้ไม่ตรงใจ แต่ในอนาคตมันจะยิ่งเก่งขึ้น หน้าที่ของ HR ควรประสานกับฝ่ายจัดการ ว่าถ้ามีโอกาสในการใช้ขุมพลังนี้ output มันจะไม่มีวันสิ้นสุด เหมือนขุนบ่อแล้วมีทองมาไม่รู้จบ

3️⃣ “แข่งขันทะลุมิติ” ตอนนี้เราสร้างออฟฟิศปลอมขึ้นมา อยากได้พนักงานอินเดีย AI ก็ทำได้ ถ้าไม่ไหวตัว คู่แข่งหน้าใหม่ ๆ จะเกิดขึ้นเยอะแล้วเราตกที่นั่งลำบาก

🔸 Likely outcomes

1. เกิดการเลิกจ้างยกใหญ่ โดยเฉพาะตำแหน่งงานรูทีนและบริษัทที่ตกยุค/แข่งขันยุคดิจิทัลไม่ได้
2. เกิดการจ้าง AI ในงานรูทีน และตำแหน่งที่หาคนยาก
3. เกิดการจ้างงานมากขึ้นในตำแหน่งที่ใช้ AI แล้วหารายได้ได้มากขึ้น

🔸 ผู้ว่าจ้างเกรด AAA ที่จะรอดในยุคนี้

1. Adoption นำ AI มาปรับใช้
2. Automation งานรูทีนให้ AI ทำ
3. Augmentation เอา AI มาส่งเสริมทักษะพนักงานปัจจุบัน


🔸4 steps towards high ROI L&D

1️⃣ ลดงานรูทีนให้มากสุด อย่ายัดเยียด PD ทั้งที่งานล้น
– เปลี่ยน process การทำงาน
– automate การทำงานเท่าทีไ่ด้
– ถ้าไม่ยอมเปลี่ยนแนวคิด ให้พิจารณาเลิกจ้างโดยเฉพาะระดับผู้บริหาร ไม่งั้นจะไปทั้งองค์กร
2️⃣ เริ่มใช้ AI ให้เร็วที่สุด เรียนรู้ อะไรดีไม่ดี และวัดผล
3️⃣ คิดให้ออกว่า Organization Structure และ JD ในอนาคตจะเป็นอะไร
4️⃣ ส่งเสริมทักษะบริหารและตัดสินใจให้เร็วที่สุด

สุดท้ายคุณณภัทรได้ฝากไว้ว่า “L&D + Tech สำคัญ และเวลาไม่ได้อยู่ข้างเรา โดยเฉพาะเวลาของพนักงาน ถ้ากว่า 85% ของเวลาพนักงานหมดไปกับงานรูทีน ไม่ต้องถามเลยว่าทำไมลูกน้องลาออก”

📌 หากคุณคือผู้นำยุคใหม่ ที่อยากรู้ว่าจะนำ GenAI ไปใช้ในองค์กรอย่างไรได้บ้าง
มาสัมผัสได้ที่เวิร์กชอป ‘Generative AI Mastery for Executives’
พาเปิดโลกของ GenAI ให้คุณสามารถปรับกลยุทธ์ พร้อมรับมือกับเทคโนโลยีใหม่ที่กำลังเข้ามาพลิกโฉมการทำธุรกิจในยุคปัจจุบัน
🔸 มีจัดทั้งรูปแบบ In-house และ Public Workshop
สำรองที่นั่ง Public Workshop ได้ที่นี่ 


#ThailandLDForum2024 #LearningAndDevelopment #HRConference #HRNetworking #PMAT 

More in:Business

Comments are closed.