พฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยน ทำ SEO แค่บน Google ไม่พอ
สรุป session SEOs with insurance in 2024 โดยคุณไอซ์ ศิริพงษ์ กลิ่นขจร จาก NerdOptimize.com ในงาน Money InsureX FORUM 2024
ในตอนนี้ Google ยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่น่าสนใจในการดึง Traffic เข้าเว็บไซต์ นับเป็นกว่า 40% ของการค้นหาทั้งหมด
เมื่อเราลองเสิร์ชคำที่ใกล้เคียงกัน เช่น ประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันชั้น 1, ราคาประกันชั้น 1 จะพบว่าผลการเสิร์ชใกล้เคียงกัน และบางคอนเทนต์ก็ติดอันดับในหลายคีย์เวิร์ด แสดงให้เห็นว่าเราสามารถทำคอนเทนต์เดียว แล้วติดคีย์เวิร์ดหลายคีย์เวิร์ดได้ ถ้าทำ SEO ได้ดี จะ dominate ได้ในหลาย ๆ คีย์เวิร์ดเลย
ล่าสุดจากการอัปเดตของ Google IO เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีการเปลี่ยน SERPs เป็น SGE หรือ Search Generative Experience ที่มีการใช้ AI เข้ามาแทรกในผลการค้นหามากขึ้น ทำให้ผลการค้นหาแบบใหม่มีพื้นที่ของ Organic น้อยลง
นอกจากนี้ยังมีการวิเคราะห์ว่า พฤติกรรมการค้นหาของคนอาจเปลี่ยนไป คนจะเสิร์ชยาวมากขึ้น ระบุว่าต้องการอะไรมากขึ้น และเกิด Long Tail Keyword ขึ้นมา
ถึงแม้ว่า Google จะเป็นน้ำบ่อใหญ่ แต่การเสิร์ชอีกกว่า 60% เกิดขึ้นบนช่องทางอื่น ๆ เช่น YouTube TikTok หรือ Marketplace อีกด้วย ถ้าเราต้องการ dominate ตลาด เราต้องรู้ Touchpoint ของลูกค้าด้วย เพื่อครองคีย์เวิร์ดนั้น ๆ ในแต่ละช่องทาง และทำการตลาดให้ครบทุกมิติ
รวมไปถึง AI Search ต่าง ๆ ที่ไม่ควรละเลย จากตัวอย่างที่คุณไอซ์ยกมา จะเห็นว่าหากมีลูกค้าถามคำถาม AI อย่าง ChatGPT ไปว่า “ช่วยหาประกันรถยนต์ชั้น 1 ราคาถูกที่สุดของ Toyota Altis ปี 2019 ให้หน่อย” ChatGPT ก็จะมีการแนะนำลิสต์ประกันมามากมายหลายแหล่ง ดังนั้น สิ่งที่ต้องคิดคือจะทำยังไงให้ชื่อของบริษัทเราไปอยู่ในนั้นให้ได้ ?
อนาคตของ SEO จะไม่ใช่แค่ Google แต่เราจะต้อง Optimize ทุก ๆ engine
สุดท้ายในเรื่องของ SEO Measurement การวัดผล SEO เปรียบเสมือน Black Box ที่ไม่สามารถวัดผลได้ในระยะสั้น แต่ควรวัดผลรายครึ่งปี โดยใช้ CPC (Cost per Click) ร่วมกับการใช้ ROSS (Return on Organic Search Spend)