หากคุณเป็นนักทดสอบซอฟต์แวร์ (Software Tester) ที่เคยเจอปัญหาว่าแอปที่พัฒนาเสร็จแล้ว แต่พอให้ผู้ใช้จริงกลับพบว่ามีบั๊กที่หลุดรอดมา หรือระบบบางส่วนทำงานผิดพลาด ทั้งที่ผ่านการทดสอบมาแล้ว อาจเป็นเพราะการออกแบบ Test Case และ Test Scenario ไม่ดีพอ การทดสอบที่มีโครงสร้างช่วยให้มั่นใจได้ว่าสามารถครอบคลุมทุกกรณีใช้งาน ลดโอกาสเกิดปัญหาในอนาคต และช่วยให้ทีมพัฒนาแก้ไขได้ตรงจุด

การทดสอบซอฟต์แวร์เป็นเรื่องสำคัญมาก ไม่ว่าคุณจะเป็นนักพัฒนาหรือ QA เพราะมันช่วยให้แน่ใจว่าแอปที่พัฒนาขึ้นมาจะทำงานได้ดีจริง ๆ ปัญหาที่เจอบ่อยคือฟีเจอร์ดูเหมือนจะเสร็จ แต่พอให้ผู้ใช้ลองใช้งาน กลับพบข้อผิดพลาดที่ไม่เคยเห็นมาก่อน นี่คือเหตุผลว่าทำไมการออกแบบ Test Case และ Test Scenario ถึงจำเป็น

Test Case vs. Test Scenario: แตกต่างกันอย่างไร?

ลองนึกถึงคำถามโลกแตกอย่าง “ไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน?” เราสามารถเปรียบเทียบสิ่งนี้กับสองคำสำคัญในการทดสอบซอฟต์แวร์ นั่นคือ Test Case และ Test Scenario คำถามคือ อะไรควรมาก่อน? มาทำความเข้าใจความแตกต่างของทั้งสองกัน

Test Case คืออะไร?

Test Case เป็นชุดของขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติตามเพื่อทดสอบฟีเจอร์หรือฟังก์ชันเฉพาะในซอฟต์แวร์ เช่น การล็อกอิน การทำธุรกรรม หรือการลงทะเบียน บางครั้งอาจรวมถึงการกดปุ่มและโต้ตอบกับ UI Test Case จะมีรายละเอียดของ ขั้นตอนการทดสอบ ข้อมูลทดสอบ เงื่อนไขก่อน-หลังการทดสอบ และผลลัพธ์ที่คาดหวัง ทำให้สามารถดำเนินการทดสอบได้อย่างแม่นยำและซ้ำได้

Test Case สำคัญเพราะช่วยให้การทดสอบมีโครงสร้างที่ชัดเจน ครอบคลุมทุกมุมมองของระบบ และช่วยให้นักพัฒนาเข้าใจว่าฟีเจอร์ของพวกเขาทำงานถูกต้องหรือไม่ รวมถึงใช้เป็นหลักฐานในการติดตามปัญหาและข้อผิดพลาดของระบบ

Test Scenario คืออะไร?

Test Scenario คือแนวคิดการทดสอบในมุมมองที่กว้างขึ้น เป็นการออกแบบกรณีทดสอบแบบครบวงจร โดยเน้นไปที่ Use Case ของระบบ เช่น “ซื้อสินค้าในแอป e-commerce” ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การค้นหาสินค้า หยิบใส่ตะกร้า ชำระเงิน และรับอีเมลยืนยัน Test Scenario สามารถรวมหลาย Test Cases เข้าไว้ด้วยกันเพื่อให้การทดสอบสมบูรณ์ที่สุด

Test Scenario ช่วยให้ทีมทดสอบสามารถวางแผนได้ดีขึ้น เพราะครอบคลุมกรณีที่หลากหลาย มันช่วยให้เห็นภาพรวมของระบบ และช่วยประเมินทรัพยากรที่จำเป็น เช่น เวลา งบประมาณ และจำนวนบุคลากรที่ต้องใช้ นอกจากนี้ยังช่วยให้เข้าใจฟังก์ชันหลักของซอฟต์แวร์และมั่นใจว่าฟีเจอร์สำคัญได้รับการทดสอบอย่างเหมาะสม

หลายคนอาจคิดว่าการทดสอบแค่ลองกดปุ่มดูว่ามันทำงานไหม แต่จริง ๆ แล้วการทดสอบที่ดีต้องมีโครงสร้างที่ชัดเจน Test Case เป็นรายละเอียดของแต่ละจุดที่ต้องตรวจสอบ ส่วน Test Scenario เป็นแนวทางการทดสอบภาพรวมของกระบวนการที่ผู้ใช้จะได้เจอจริง ๆ ถ้าไม่มีการออกแบบที่ดี อาจทำให้พลาดจุดสำคัญไปโดยไม่รู้ตัว

End-to-End Testing สำคัญยังไง?

End-to-End (E2E) Testing คือการทดสอบว่าทุกส่วนของระบบทำงานร่วมกันได้ดี ตั้งแต่หน้าเว็บ ไปจนถึงฐานข้อมูล และบริการเสริมต่าง ๆ เช่น ระบบจ่ายเงินหรืออีเมลแจ้งเตือน

E2E Testing เป็นเหมือนการตรวจสอบขั้นสุดท้ายก่อนปล่อยแอปให้ผู้ใช้จริง เพื่อให้มั่นใจว่าทุกอย่างทำงานราบรื่น ซึ่งสำคัญมากเพราะ

🔹 ตรวจสอบทั้งระบบ: ไม่ใช่แค่ทดสอบแยกกัน แต่ดูว่าทุกส่วนทำงานด้วยกันได้
🔹 มุมมองของผู้ใช้: จำลองการใช้งานจริงว่าผู้ใช้จะเจอปัญหาอะไรไหม
🔹 จับปัญหาก่อนสายเกินไป: แก้บั๊กตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยลดต้นทุนและเวลา
🔹 ทดสอบประสิทธิภาพ: เช็กว่าระบบรองรับผู้ใช้จำนวนมากได้หรือไม่
🔹 ความปลอดภัย: ตรวจสอบว่าข้อมูลของผู้ใช้ปลอดภัย
🔹 มั่นใจว่าสอดคล้องกับความต้องการ: ให้แน่ใจว่าทุกอย่างทำงานตามที่ออกแบบไว้

มาดูตัวอย่างของเว็บ e-commerce ถ้าจะทดสอบให้ครบ ต้องลองตั้งแต่ต้นจนจบ เช่น

เปิดเว็บไซต์ -> ค้นหาสินค้า -> เลือกสินค้า -> ใส่ตะกร้า -> กด Checkout -> กรอกรายละเอียดการจ่ายเงิน -> กดยืนยันคำสั่งซื้อ -> ได้รับอีเมลยืนยัน -> ฝ่ายแอดมินตรวจสอบคำสั่งซื้อ -> ผู้ใช้ติดตามสถานะการจัดส่ง

-> ถ้าทุกขั้นตอนนี้ทำงานได้ดี นั่นแปลว่าระบบพร้อมใช้งานจริง!

ควรทำ E2E Testing เมื่อไหร่?

เพราะการทดสอบนี้กินเวลานานและซับซ้อน จึงมักทำในช่วงท้ายของการพัฒนา โดยอิงตามแนวคิด “Test Pyramid” ซึ่งแบ่งเป็น 3 ชั้นหลัก:

Unit Tests (ฐานพีระมิด): ทดสอบโค้ดทีละชิ้น ให้แน่ใจว่าฟังก์ชันแต่ละตัวทำงานถูกต้อง

Integration Tests (ชั้นกลาง): เช็กว่าฟังก์ชันที่ทำงานแยกกัน เมื่อนำมารวมกันยังทำงานได้ดี

E2E Tests (ยอดพีระมิด): ทดสอบทุกอย่างตั้งแต่ต้นจนจบ เพื่อให้มั่นใจว่าทั้งระบบไม่มีปัญหา

เนื่องจาก E2E Testing ใช้เวลานาน จึงควรเน้นไปที่กระบวนการสำคัญ เช่น การสมัครสมาชิก การซื้อสินค้า หรือการทำธุรกรรม เพื่อให้ได้ผลที่มีคุณค่าที่สุดโดยไม่ต้องเสียเวลาไปกับการทดสอบที่ไม่จำเป็น
________________________

Test Case & Scenario Design for E2E Testing รุ่นที่ 2 มาแล้ว! 🔥

เรียนรู้และได้ลงมือออกแบบ Test Case & Test Scenario ตั้งแต่ Unit Test จนถึง End-to-End Testing พร้อมเทคนิคแก้ปัญหาในสถานการณ์จริง

🗓️ 28 – 29 เมษายน 2025
🕐 09:30 – 17:30 น.
📍 Skooldio Space, MBK Tower

สมัครหรือดูรายละเอียดเพิ่มเติม 👉 คลิกเลย

References:

https://www.testdevlab.com/blog/test-case-vs-test-scenario-whats-the-difference
https://www.browserstack.com/guide/end-to-end-testing
https://katalon.com/resources-center/blog/end-to-end-e2e-testing
https://circleci.com/blog/what-is-end-to-end-testing/ 

More in:Technology

Comments are closed.