ในยุคที่ AI เข้ามาเปลี่ยนวิธีทำงานอย่างรวดเร็ว ‘การพัฒนาทักษะ’ กำลังกลายเป็นเส้นแบ่งสำคัญระหว่างองค์กรที่พร้อมก้าวไปข้างหน้า กับองค์กรที่เสี่ยงจะสูญเสีย Talent อันมีค่า
แม้พนักงานส่วนใหญ่จะใช้ AI เป็นส่วนหนึ่งของงานประจำวันแล้ว แต่ผู้บริหารจำนวนไม่น้อยยังคงประเมินความต้องการในการพัฒนาทักษะของทีมต่ำเกินไป ความต่างของมุมมองนี้กำลังสร้างช่องว่างที่อาจกระทบทั้งความอยู่รอดของธุรกิจและการรักษาคนเก่งให้อยู่กับองค์กร
บทความนี้ Skooldio จะพาทุกคนไปสำรวจว่าเพราะอะไรการ Upskill จึงไม่ใช่แค่สวัสดิการเสริมสำหรับพนักงาน แต่เป็น “กลยุทธ์” ที่องค์กรยุคใหม่ควรต้องลงทุนอย่างจริงจัง เพื่อรักษาพนักงานเก่ง ๆ ไว้ พร้อมแนวทางที่ผู้นำสามารถเริ่มต้นได้ทันทีในการปิดช่องว่างและสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้อย่างยั่งยืน
Table of Contents
จุดเริ่มต้นของวิกฤต ช่องว่างระหว่างผู้บริหารและพนักงาน
ข้อมูลจาก 2024 McKinsey Global Survey เผยว่าพนักงาน 9 ใน 10 คนใช้ Gen AI ในการทำงาน แล้วและ 21% เป็น ‘Heavy Users’
น่าสนใจว่าพนักงานปรับตัวและเปิดรับการใช้ AI มากกว่าที่ผู้บริหารคาดคิด ในขณะเดียวกัน ‘ผู้นำ’ อาจกลายเป็นอุปสรรคที่ขัดขวางการเติบโตของ AI ในองค์กร
ในปี 2024 World Economic Forum ได้รายงานว่า 98% ของพนักงานระบุว่าพวกเขาต้องการ Generative AI ‘reskilling’ หรือ ‘upskilling’ ภายในห้าปีข้างหน้า แต่ในทางกลับกันฝั่งผู้บริหารเชื่อว่ามีเพียง 40% ของพนักงานเท่านั้นที่ต้องการการฝึกอบรมเกี่ยวกับ AI
ความไม่สอดคล้องนี้สร้าง ช่องว่าง ที่อาจนำไปสู่ความเสี่ยงที่ผู้บริหารต้องตระหนักถึง เช่น การเกิด Shadow AI หรือการที่ พนักงานใช้เครื่องมือ AI ที่องค์กรไม่ได้อนุมัติอย่างเป็นทางการและอยู่นอกเหนือการควบคุมขององค์กร หรือการการสูญเสีย Talent เพราะองค์กรไม่ตอบโจทย์การพัฒนาทักษะของพวกเขา
ปัจจัยในการตัดสินใจว่าจะ ‘อยู่’ หรือ ‘ไป’
เมื่อการพัฒนาทักษะกลายเป็น 1 ในเหตุผลสำคัญของการตัดสินใจว่าจะอยู่ต่อหรือลาออกของพนักงาน
รายงานจาก Forbes พบว่า 3 ใน 4 ของพนักงาน Millennials และ Gen Z พร้อมจะลาออก หากงานไม่เปิดโอกาสให้เรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ
ดังนั้น การลงทุนพัฒนาทักษะ โดยเฉพาะ AI ที่จะยิ่งมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในอนาคตจึงไม่ใช่แค่สวัสดิการเสริมของพนักงาน แต่คือสิ่งจำเป็น และอาจเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่จะช่วยให้องค์กรรักษา Talent เอาไว้ได้
ทักษะที่คนทำงานควรมี
จากรายงาน Future of Jobs Report 2025 ที่เผยแพร่โดยองค์กรระดับโลก อย่าง World Economic Forum ก็มีข้อมูลที่น่าสนใจมากมายเกี่ยวกับอนาคตของตลาดแรงงาน หนึ่งในนั้นคือเรื่องของ “Core Skills” หรือทักษะหลักที่คนทำงานควรจะต้องมีในปี 2025 จากรายงานพบว่า Top 10 ของ Core Skills ได้แก่
- Analytical thinking
- Resilience, flexibility and agility
- Leadership and social influence
- Creative thinking
- Motivation and self-awareness
- Technological literacy
- Empathy and active listening
- Curiosity and lifelong learning
- Talent management
- Service orientation and customer service
โดยในรายงานได้มีการคาดการณ์ว่า ในปี 2030 หรืออีก 5 ปีข้างหน้า หลายทักษะที่เป็นทักษะหลักสำหรับองค์กรในตอนนี้ก็จะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและจะยิ่งมีบทบาทสำคัญในอนาคต ยกตัวอย่างเช่น ทักษะด้าน AI and big data / Analytical thinking / Creative thinking / Resilience, flexibility and agility และ Technological literacy
แล้วผู้นำควรจะทำอย่างไร?
เพื่อให้สามารถรักษาทั้ง Talent และพาองค์กรก้าวไปข้างหน้าในยุคนี้
เริ่มจากการปรับ Mindset ของผู้นำ
การวางรากฐานความรู้ด้าน AI ให้กับผู้บริหารเป็นสิ่งสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ “Mindset” ที่ผู้บริหารมีต่อ AI
หากผู้นำยังคงมอง AI เป็นเพียงแค่เครื่องมือเสริมช่วยจัดการงานประจำวันทั่วไป การเปลี่ยนแปลงก็จะหยุดอยู่แค่นั้น ถูกจำกัดอยู่ในวงแคบ แต่ถ้าผู้นำเห็นถึงความสำคัญของ AI มองเป็น “ทักษะจำเป็น” ที่ทุกคนต้องพัฒนาก็จะนำไปสู่การสื่อสารกับพนักงานทุกระดับ และการตัดสินใจลงทุนพัฒนาทักษะที่ตอบโจทย์ยุคใหม่อย่างจริงจัง
พัฒนาทักษะให้ตรงกับความต้องการ
สิ่งสำคัญข้อต่อมาคือการออกแบบการ Upskill ให้ตรงกับบริบทของงานจริง เพราะหน้าที่และความรับผิดชอบของแต่ละทีมไม่เหมือนกัน การลงทุนเพื่อพัฒนาทักษะจึงไม่ควรเป็นการ “เอาเงินไปละลายแม่น้ำ” แต่ควรมุ่งไปที่สิ่งที่พนักงานสามารถนำไปใช้ได้ทันที ตอบโจทย์ที่พวกเขากำลังเผชิญ เมื่อทั้งผู้นำและทีมเห็นชัดว่า AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและแก้ปัญหาได้จริง ก็จะกลายเป็นเหมือน “จุดเริ่มต้น” สำหรับการเปลี่ยนแปลงในระยะยาว
ส่งเสริมวัฒนธรรมการเรียนรู้
สิ่งหนึ่งที่จะทำให้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างยั่งยืนคือการสร้างพื้นที่ปลอดภัย และส่งเสริมวัฒนธรรมที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เรียนรู้และทดลอง
เพราะการทำความเข้าใจเครื่องมือใหม่ ๆ เปลี่ยนแปลง workflow ที่คุ้นชินไม่ใช่เรื่องง่าย เป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลา หรือแม้แต่การทำโปรเจกต์ AI เองก็อาจเป็นสิ่งที่ท้าทาย ไม่ได้ประสบความสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรก
ดังนั้นหากผู้นำสนับสนุนให้ทีมมีพื้นที่ปลอดภัยในการทดลอง เรียนรู้ และกล้าแบ่งปันประสบการณ์ของตัวเองก็จะช่วยลด กำแพงทางจิตใจ (psychological barriers) และทำให้การเรียนรู้กลายเป็นเรื่องของทุกคน
ออกแบบเส้นทางการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ธุรกิจคุณ
หากคุณกำลังมองหา Partner ที่พร้อมเข้าใจโจทย์ของธุรกิจคุณ และช่วยออกแบบการเรียนรู้ที่ทำให้ทั้งผู้บริหารและพนักงานมีความพร้อมในด้าน AI อย่างตรงจุด สามารถสร้างคุณค่าจาก AI ได้จริง Skooldio ยินดีเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมขับเคลื่อน AI Transformation ให้เกิดขึ้นจริงในองค์กรของคุณ
Skooldio มีบริการออกแบบ solutions ที่ปรับให้เข้ากับบริบทและความต้องการของธุรกิจคุณโดยเฉพาะ (Customized Journey) โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษาอย่างเต็มที่ พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญของเราได้ที่ sales@skooldio.com หรือ กรอกข้อมูลเพื่อดาวน์โหลด Partnership Playbook ฟรี
References
The learning organization: How to accelerate AI adoption | McKinsey & Company
The Future of Jobs Report 2025 | World Economic Forum
Superagency in the workplace: Empowering people to unlock AI’s full potential | McKinsey
5 ways to make the Generative AI transformation a success | World Economic Forum | World Economic Forum
74% Of Millennials & Gen Z Think They Can Build Better Skills At A New Job | Forbes