AI Leadership คือ

โลกธุรกิจกำลังขยับเข้าสู่ยุคที่ “ความสามารถในการใช้ AI เพื่อสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจ” กลายเป็นความได้เปรียบเชิงการแข่งขันขั้นพื้นฐาน ไม่ใช่โครงการทดลองในมุมหนึ่งขององค์กรอีกต่อไป คำถามจึงไม่ใช่ว่าองค์กรควรทำ AI หรือไม่ แต่คือ “ทำอย่างไรให้ AI เปลี่ยนเกมของธุรกิจได้จริง” และคำตอบเริ่มต้นที่ผู้นำระดับองค์กร บทความนี้จะชวนผู้นำให้มองเห็นว่า ทำไม AI ถึงเป็นความรับผิดชอบสำคัญของผู้บริหารยุคใหม่ที่ต้องการพุ่งทะยานไปสู่โลกธุรกิจแห่งอนาคตอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ

ผู้ที่ต้องนำขบวน AI คือกลุ่มผู้บริหาร ไม่ใช่แค่ทีม IT

เนื่องจาก AI เป็นเทคโนโลยีแห่งโลกอนาคต คนจำนวนไม่น้อยจึงมีความเชื่อว่ากลุ่มคนที่จะหยิบเครื่องมือนี้มาใช้ได้ดีคือทีม IT ที่เป็นเหมือนผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่สุดขององค์กร จากแบบสำรวจของทาง Freshworks พบว่ากว่า 40% ของพนักงานในองค์กรเชื่อว่าทีม IT คือหัวหอกหลักในการหยิบ AI มาใช้ และสร้างกระบวนการที่มีเครื่องมือนี้เป็นศูนย์กลาง แต่มีพนักงานเพียงแค่ 23% เท่านั้นที่เชื่อว่าผู้นำคือหัวใจสำคัญของการทำ AI Transformation นี้

AI ไม่ได้เป็นเพียงความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี แต่มันคือตัวพลิกเกมที่สร้างอิมแพ็คให้กับองค์กรได้ในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

จริงอยู่ที่แผนก IT อาจจะเป็นกลุ่มคนที่ปรับตัวได้ง่ายที่สุด แต่การทำให้ AI ขยายผลสู่ทั้งองค์กร และสามารถเปลี่ยนผ่านทั้งองค์กรให้กลายเป็น AI-First Company ได้จริง ต้องอาศัยคนที่คุมบังเหียนใหญ่ ซึ่งก็คือผู้บริหารนั่นเอง เพราะหากพนักงานจากทีมหนึ่งมีความรู้ และกระตือรือร้นที่จะใช้ AI แต่ผู้นำที่อยู่ด้านบนดันไม่มีความรู้ และความเข้าใจในเครื่องมือนั้น การทำ AI Transformation ก็จะขาดประสิทธิภาพ และมีแนวโน้มที่จะล้มเหลวสูง

ทำไมผู้บริหารถึงต้องเป็นผู้นำการทำ AI Transformation

การทำ AI Transformation ไม่อาจเกิดขึ้นได้จริงหากผู้บริหารไม่ได้เป็นคนเดินนำการเปลี่ยนผ่านนี้ เพราะนี่ไม่ใช่เพียงแค่การนำเทคโนโลยีใหม่เข้ามาในองค์กร แต่ AI คือการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่กระทบทั้งวิธีคิด กระบวนการทำงาน และวัฒนธรรมโดยรวม ซึ่งหากปราศจากการนำจากระดับบนสุด การเปลี่ยนแปลงก็มักจะไม่มีแรงผลักดันเพียงพอ เมื่อผู้บริหารก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง พวกเขาไม่เพียงสร้างทิศทางที่ชัดเจนให้ทุกคนเข้าใจตรงกัน แต่ยังสร้างความเชื่อมั่นว่าการเดินหน้าสู่การใช้ AI คือเรื่องสำคัญที่มีคุณค่าต่ออนาคตขององค์กร การแสดงบทบาทอย่างเข้มแข็งของผู้บริหารยังเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่เพียงแค่กระแสชั่วคราว แต่คือยุทธศาสตร์ที่ต้องการการสนับสนุนจากทุกคนในองค์กร

ยิ่งไปกว่านั้น ผู้บริหารคือผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจเชิงทรัพยากร ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณ เวลา หรือการจัดสรรบุคลากร ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ AI Transformation เดินหน้าได้จริง การริเริ่มจากผู้นำยังทำให้เกิดแรงบันดาลใจและความไว้วางใจในระดับพนักงาน เพราะเมื่อเห็นว่าผู้บริหารเองก็พร้อมจะเรียนรู้ ทดลอง และลงมือใช้ AI พนักงานก็จะมีแรงจูงใจและความกล้าที่จะก้าวตาม ไม่ใช่เพียงการทำตามคำสั่ง แต่เป็นการร่วมมือกันเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกัน และเมื่อความคิดนี้แผ่ขยายลงไปทุกระดับ องค์กรก็จะสามารถสร้างวัฒนธรรมใหม่ที่ผสมผสาน AI เข้าไปในการทำงานประจำวันได้อย่างเป็นธรรมชาติ

ดังนั้น บทบาทของผู้บริหารในการเป็นผู้นำการทำ AI Transformation จึงมีความสำคัญ ไม่ใช่เพราะพวกเขาเป็นผู้บังคับบัญชา แต่เพราะพวกเขาคือผู้กำหนดวิสัยทัศน์ ผู้สร้างแรงศรัทธา และผู้ทำให้การเปลี่ยนแปลงมีพลังมากพอที่จะขับเคลื่อนทั้งองค์กรไปข้างหน้าได้พร้อมกัน การนำจากบนสุดจึงไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นเงื่อนไขที่ทำให้ AI Transformation ประสบความสำเร็จได้จริงและยั่งยืนในระยะยาว

แนวทางการพัฒนาเป็นผู้นำ AI-First

ตลอดช่วง 50 ปีมานี้ เทคโนโลยีใหม่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับภาคธุรกิจแบบทีละนิดทีหน่อย แต่ AI มันคือเทคโนโลยีที่เข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลง (disrupt) ทุกภาคส่วนในระยะเวลาอันสั้นเลย แนวทางการพัฒนาเป็นผู้นำ AI-First จึงมีความท้าทาย แต่พื้นฐานสำคัญที่สุดจะมีทั้งหมด 3 ข้อด้วยกัน 

1. วางรากฐานความรู้เรื่อง AI ที่แข็งแรง

การวางรากฐานที่ว่า ไม่ได้หมายความว่าผู้บริหารจะต้อง “รู้ลึก” และ “รู้ทุกอย่าง” เกี่ยวกับ AI แต่หมายความว่าผู้บริหารจะต้องมีความเข้าใจพื้นฐานว่าเครื่องมือนี้มันมีความสามารถในเรื่องใดบ้าง และจะเอาเครื่องมือนี้มาประยุกต์ใช้กับแต่ละทีมได้อย่างไร ที่สำคัญคือต้องเข้าใจว่า AI มันมีข้อบกพร่องในจุดไหนบ้าง ถ้าเราไม่มีรากฐานความรู้เหล่านี้ การทำ AI Transformation ก็จะออกมาไร้ทิศทางมาก 

2. เก็บเกี่ยว Mindset แบบ AI-First

ผู้บริหารคือจุดเริ่มต้นของการสร้าง Mindset แบบ AI-First เพราะความคิด และทัศนคติของผู้นำจะสะท้อนออกมาเป็นทิศทาง วัฒนธรรม และการตัดสินใจของทั้งองค์กร หากผู้บริหารยังมอง AI เป็นเพียงเครื่องมือเสริมเล็กน้อย การเปลี่ยนแปลงก็จะถูกจำกัดอยู่ในระดับโครงการเล็ก ๆ ที่ไม่ส่งผลต่อกลยุทธ์หลัก แต่หากผู้บริหารมีวิสัยทัศน์แบบ AI-First และมองว่า AI คือหัวใจของการทำงานยุคใหม่ ทุกระดับขององค์กรก็จะได้รับแรงกระตุ้นให้ปรับวิธีคิด ใช้ข้อมูลเป็นฐาน และกล้าลองสิ่งใหม่ ๆ ที่ช่วยสร้างรากฐานความเชื่อมั่น และความเข้าใจร่วมกันว่า AI ไม่ได้มาแทนมนุษย์ แต่เป็นพลังเสริมที่ช่วยให้ทีมทำงานฉลาดขึ้น เร็วขึ้น และสร้างคุณค่าใหม่ได้มากกว่าเดิม

3. ขัดเกลาความรู้เรื่อง AI ให้เฉียบแหลมอยู่ตลอด 

AI ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว และมีการเปลี่ยนแปลงแทบทุกวัน การที่ผู้บริหารจะสามารถขับเคลื่อนองค์กรให้ทันต่อการแข่งขันได้ จำเป็นต้องขัดเกลาความรู้เรื่อง AI ให้เฉียบแหลมอยู่เสมอ เพราะความรู้และความเข้าใจในวันนี้อาจไม่เพียงพอสำหรับการตัดสินใจในวันพรุ่งนี้ หากผู้บริหารยังยึดติดกับความเข้าใจเดิม ๆ หรือปล่อยให้ตัวเองตามไม่ทันแนวโน้มใหม่ ๆ โอกาสสำคัญในการสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจก็อาจหลุดลอยไป การเรียนรู้อย่างต่อเนื่องไม่เพียงทำให้ผู้บริหารมองเห็นโอกาสเชิงกลยุทธ์ แต่ยังช่วยให้สามารถประเมินความเสี่ยง กำหนดทิศทาง และชี้นำองค์กรได้อย่างมั่นใจ และสะท้อนให้เห็นว่าผู้นำไม่เพียงแค่สั่งการ แต่ยังเข้าใจแก่นของการเปลี่ยนแปลง และพร้อมจะนำพาองค์กรไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน

อุปสรรคที่ต้องก้าวข้ามระหว่างช่วง AI Adoption

อุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดของการเข้าสู่ช่วง AI Adoption มักไม่ได้อยู่ที่ตัวเทคโนโลยี แต่อยู่ที่ “การปรับตัวของคนในองค์กร” เพราะแม้ AI จะมีศักยภาพมากเพียงใด หากบุคลากรยังไม่เปิดใจหรือยังขาดความเข้าใจที่ถูกต้อง จะนำไปสู่ความกลัวการถูกแทนที่ ความกังวลว่าตนเองไม่มีทักษะเพียงพอ หรือความไม่มั่นใจในความโปร่งใสของ AI ล้วนเป็นกำแพงที่ทำให้คนจำนวนไม่น้อยลังเลที่จะทดลอง และใช้งานจริง

ซึ่งการขาดความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ AI ทำให้เกิดความเข้าใจผิด และมอง AI เป็นเพียงแฟชั่นที่มาแล้วก็ไป องค์กรที่ต้องการผ่านช่วง AI Adoption จึงต้องลงทุนในการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และวัฒนธรรมที่สนับสนุนการเรียนรู้ร่วมกัน พร้อมทั้งสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ทุกคนกล้าที่จะทดลอง และล้มเหลวโดยไม่ถูกตำหนิ เมื่อบุคลากรเริ่มเห็นประโยชน์ของ AI ต่อการทำงานจริง ความเชื่อมั่นและแรงจูงใจก็จะเกิดขึ้น และเมื่อทุกคนค่อย ๆ ปรับตัวได้ องค์กรก็จะสามารถก้าวข้ามอุปสรรคไปสู่การใช้ AI อย่างยั่งยืน

การเป็น AI-First Company คือเรื่องของ “ทุกคนในองค์กร”

การเป็น AI-First Company ไม่ใช่เพียงเรื่องของผู้บริหาร หรือทีมเทคโนโลยีเท่านั้น แต่คือการเปลี่ยนแปลงที่ต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของทุกคนในองค์กร เพราะ AI จะไม่สามารถสร้างคุณค่าได้อย่างแท้จริงหากถูกจำกัดอยู่แค่ในระดับกลยุทธ์หรือเครื่องมือทดลองเล็ก ๆ แต่ต้องถูกนำมาใช้ในกระบวนการทำงานจริงของแต่ละแผนก แต่ละทีม และแต่ละบุคคล พนักงานที่อยู่หน้างานคือผู้ที่เข้าใจปัญหาและโอกาสในรายละเอียดมากที่สุด

การที่ทุกคนมีทัศนคติแบบ AI-First จะทำให้สามารถมองหาโอกาสในการใช้ AI เพื่อแก้ปัญหา เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งการสร้างวัฒนธรรม AI-First ยังต้องการความร่วมมือกันเรียนรู้ ทดลอง และแบ่งปันประสบการณ์ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายการตลาด ฝ่ายขาย การเงิน หรือทรัพยากรบุคคล เพราะทุกฟังก์ชันสามารถใช้ AI เพื่อยกระดับศักยภาพการทำงานได้ทั้งสิ้น หากทุกคนในองค์กรมีความเข้าใจและพร้อมที่จะใช้ AI อย่างสร้างสรรค์ การเปลี่ยนแปลงจะไม่ใช่เพียงแค่โครงการ แต่จะกลายเป็นพลังขับเคลื่อนร่วมกันที่ทำให้องค์กรพัฒนาอย่างก้าวกระโดดและยั่งยืน

คนคือทรัพยากรที่สำคัญที่สุดในกระบวนการ AI Transformation 

ในกระบวนการ AI Transformation คนคือทรัพยากรที่สำคัญที่สุด จังหวะทิศทางในการเปลี่ยนผ่านสู่องค์กร AI อย่างเต็มตัวจะถูกกำหนดด้วยหลักการ 10-20-70 โดยที่องค์กรควรจะลงแรง 10% สำหรับการออกแบบและพัฒนา Algorithms ให้ฉลาด, 20% สำหรับเทคโนโลยีที่สอดรับไปกับธุรกิจ ส่วนอีก 70% ที่เหลือเอาไว้สำหรับทรัพยากรบุคคล และกระบวนการดำเนินงาน 

สาเหตุที่การลงทุนเรื่องแรงและเวลาทั้งหมดต้องไปลงกับเรื่องคน แทนที่จะเป็นเรื่อง Algorithms และเทคโนโลยีก็เพราะว่า แม้เทคโนโลยีจะก้าวหน้าเพียงใด แต่สุดท้ายผู้ที่ทำให้ AI สร้างคุณค่าได้จริงคือคนที่นำมันมาใช้และผสมผสานเข้ากับการทำงานขององค์กร ต่อให้เราจะมีเครื่องมือที่ฉลาด ทันสมัย และสอดรับกับธุรกิจของเราโดยแท้จริง แต่ทั้งหมดนี้จะสูญเปล่าถ้าหากคนในองค์กรใช้เครื่องมือเหล่านี้ไม่ถูกต้องหรือผิดบริบทการทำงาน หากคนในองค์กรใช้เครื่องมือเป็น และรู้แนวทางในการประยุกต์ AI ให้เข้ากับทำงานของทีม ผลประโยชน์ที่ได้จะไม่ใช่เพียง productivity ที่เพิ่มสูงขึ้น แต่มันคือการปลดล็อกขอบเขตความสามารถที่พนักงานคนหนึ่งจะสามารถทำได้

เพราะ AI ไม่ได้มาแทนที่มนุษย์ แต่ทำงานได้ดีที่สุดเมื่อเป็น “พลังเสริม” ที่ช่วยให้มนุษย์ทำงานได้เร็วขึ้น ฉลาดขึ้น และมีเวลาสร้างคุณค่าใหม่ ๆ มากขึ้น หากองค์กรละเลยการพัฒนาคน ไม่สร้างความเข้าใจหรือไม่ทำให้พนักงานมีส่วนร่วม กระบวนการ Transformation ก็จะสะดุดและไม่อาจเกิดผลลัพธ์ที่ยั่งยืนได้ ในทางกลับกัน เมื่อคนในองค์กรเชื่อมั่น เห็นคุณค่า และสามารถใช้ AI อย่างสร้างสรรค์ การเปลี่ยนแปลงก็จะกลายเป็นพลังขับเคลื่อนร่วมกันที่สร้างความได้เปรียบทางธุรกิจในระยะยาว

การลงทุนกับคนคือสิ่งที่คุ้มค่าที่สุดในยุคเปลี่ยนผ่านสู่โลก AI

อย่างที่บอกไปก่อนหน้าว่า การเปลี่ยนผ่านสู่โลก AI ไม่ใช่เรื่องของเครื่องมือเพียงอย่างเดียว แต่คือการปรับวัฒนธรรมและวิธีคิดของทั้งองค์กร การลงทุนในเทคโนโลยีโดยไม่ลงทุนกับคนอาจทำให้โครงการ AI สะดุดหรือล้มเหลว เพราะไม่มีใครเข้าใจหรือพร้อมที่จะนำไปใช้อย่างลึกซึ้ง ในทางกลับกัน องค์กรที่ลงทุนพัฒนาคนทั้งในด้านความรู้ ความคิดเชิงวิเคราะห์ และทักษะการทำงานร่วมกับ AI จะสามารถสร้าง “ข้อได้เปรียบเชิงมนุษย์” ที่เทคโนโลยีเพียงอย่างเดียวไม่อาจเลียนแบบได้ ความคิดสร้างสรรค์ ความสามารถในการตีความข้อมูล ความเข้าใจเชิงมนุษย์ และความสามารถในการเชื่อมโยงประสบการณ์เข้ากับการใช้ AI ล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้การเปลี่ยนแปลงไม่เพียงสำเร็จในระยะสั้น แต่ยังนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

Generative AI Mastery for Executive

หากคุณเชื่อว่า AI คือกุญแจสำคัญ และไม่อยากพลาดขบวนการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลกธุรกิจ มาร่วมก้าวสู่การเป็นผู้บริหารที่เข้าใจและพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง ในเวิร์กชอป Generative AI Mastery for Executive ที่จะช่วยให้คุณมองเห็นศักยภาพของ AI ในการพลิกโฉมทั้งองค์กร

Digital Leadership Bootcamp

หลักสูตรที่ผสมผสานจุดแข็งของผู้นำด้านเทคโนโลยีและการบริหารคนจนกลายเป็น DNA ของ “AI-Ready Leader” ที่ทั้งมองเห็นทิศทางเทคโนโลยี และขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ได้จริง เรียนรู้กับผู้นำตัวจริงได้ใน Digital Leadership Bootcamp

AI Enablement Partner

AI Enablement Partner | Skooldio

Skooldio พร้อมเป็นพาร์ตเนอร์ที่เดินเคียงข้างองค์กรของคุณในเส้นทางการทรานส์ฟอร์มครั้งใหญ่ เราร่วมออกแบบโปรแกรมการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์เป้าหมายทางธุรกิจอย่างตรงจุด

ด้วยความเชี่ยวชาญด้านการสร้างประสบการณ์การเรียนรู้สำหรับผู้บริหาร เราเริ่มจากการทำความเข้าใจโจทย์ขององค์กรอย่างลึกซึ้ง รับฟังบริบท ความท้าทาย และเป้าหมายของผู้นำองค์กร ก่อนจะออกแบบเส้นทางการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับความต้องการเฉพาะของธุรกิจคุณ

ที่ผ่านมา เราได้ทำงานร่วมกับองค์กรชั้นนำในการพัฒนาโปรแกรมฝึกอบรมด้าน AI ที่ไม่เพียงช่วยให้ผู้นำเข้าใจเทคโนโลยี แต่ยังสามารถนำไปใช้จริงเพื่อขับเคลื่อนการตัดสินใจ นำการเปลี่ยนแปลง และสร้างคุณค่าที่จับต้องได้จาก AI ในโลกธุรกิจ

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราได้ฟรี เพื่อเริ่มต้นออกแบบโปรแกรมสำหรับทีมของคุณ ติดต่อได้ที่ sales@skooldio.com หรือศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม 


Sources

AI-First Leadership: Embracing the Future of Work | Harvard Business Impact

The Leader’s Guide to Transforming with AI | BCG

AI Leadership: Why AI Is Every Leader’s Responsibility | Forbes

More in:AI

Comments are closed.