ไม่ต้องเป็น tech ที่ล้ำที่สุด แต่เป็นความใส่ใจ innovation แบบไทย ๆ ก็จะมีที่ยืน
สรุป Session Half Year Trends : Business and Economy โดยคุณป้อม ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ CEO, PaySolutions, Creden.co, Gash.ai และคุณหมู ณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ CEO & Co-Founder Ookbee ในงาน CTC2024
อัปเดตเทรนด์ธุรกิจและเศรษฐกิจ
ในช่วงปีที่ผ่านมา คุณป้อมแชร์ว่า TikTok มาแรงมาก เปิดมาปีแรกก็กำไรเลย ในเชิงเศรษฐกิจ “ออนไลน์ไม่ใช่ทางเลือกแต่คือทางหลัก” ธุรกิจออนไลน์ใครมาทีหลังได้เปรียบ ใช้เงินน้อยกว่า
อีกกลุ่มนึงคือกลุ่ม logistic ไปรษณีย์ไทยกำไรแล้วหลังจากขาดทุนมา 2 ปีติด ส่วน Shopee และ Lazada ก็กำไร จะเห็นได้ว่า คนที่มีต้นน้ำยันปลายน้ำอย่าง Shopee Lazada จะทำกำไรได้
Food delivery ก็เป็นเกมที่โหด การขาดทุนทุกเจ้าน้อยลง Grab กำไรแล้ว ที่น่าเป็นห่วงคือ Robinhood ที่ขาดทุนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
คุณหมูบอกว่าปี 2024 ตลาดหุ้นประเทศไทยแย่เป็นอันดับ 2 ของโลก ประกอบกับ GDP ก็น้อย ชัดเจนว่าเศรษฐกิจไทยไม่ได้อยู่ในภาพที่ดี ซึ่งเป็นปีที่ challenge สำหรับผู้ประกอบการไทย แต่ก็เป็นโอกาสให้บริษัทที่มีวินัยทางการเงิน
สำหรับการลงทุน สิ่งที่น่าสนใจคือ
– Asset class ที่มาแรงในช่วงปีนี้คือ crypto currency ที่กลับมาคึกคัก ในขณะที่อย่างอื่นถดถอย
– การลงทุนของเราเป็น global มากขึ้น เลือกลงกองทุนของประเทศไหนก็ได้ บางครั้งเราอยากลงทุนในอสังหา แต่ไม่อยากซื้อคอนโด เราก็เลือกไปซื้อหุ้นแทนได้
คุณป้อมแชร์ว่าคนไทยใช้บริการออนไลน์เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น Netflix, Youtube Premium, Spotify, Canva และอื่น ๆ สรรพากรก็เลยได้มีการออกฎหมายเพื่อเก็บภาษี พบว่าคนไทยจ่ายเงินให้ต่างประเทศ 2 แสนกว่าล้านบาท ซึ่งมันคือ ‘การขาดดุล’
ถ้านำเข้ามาอยู่ในสมการแล้ว สินค้าดิจิทัลน่าจะอยู่ในอันดับ 6 ของสินค้าที่นำเข้าในประเทศไทย
ดังนั้น รัฐควรมาดูว่าจะกลับมาสนับสนุนเทคโนโลยีในประเทศไทยยังไง หรือดึงบริษัทพวกนี้มาลงทะเบียนในไทยเพื่อให้เงินที่คนไทยจ่ายก็ยังอยู่ในประเทศเรา
อย่างไรก็ตาม คุณหมูเสริมว่าการจะทำ product ให้สู้กับพวกนี้ ยากมาก ถ้าดูขนาดของ Netflix ต่อให้เราลงทุน scale ของการทำ product ที่เป็นเรื่อง global ก็อาจจะยาก ลงทุนเท่า Netflix แต่ได้รายได้ไม่เยอะ
แล้ว scale ไหน หรืออุตสาหกรรมไหนที่ประเทศไทยน่าจะมีโอกาสจริง ๆ
คุณป้อมแชร์ว่าเราพึ่งพาเกษตร 10% แต่ใช้คนประมาณ 30% ของทั้งหมด และธุรกิจส่วนใหญ่รับการเปลี่ยนแปลงของ AI ได้น้อย ทำให้ประเทศชาติไม่สามารถใช้ประโยชน์จากมันได้เลย
อีกตัวที่น่าสนใจคือ อุตสาหกรรม โรงงานก็ควรจะไปตามเทรนด์ด้วย
ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจและการเมืองทำให้นักลงทุนต่างขาติก็หนีไปประเทศที่มั่นคงมากกว่า
การจะเปลี่ยนประเทศอาจจะยาก สิ่งที่พอทำได้คือ ใครมี platform ดี ๆเราใช้ไปก่อน คุณหมูบอกว่าพอได้มีโอกาสไป Shark Tank แล้วพบว่าเมืองไทย ธุรกิจพวก F&B น่าสนใจมาก ขายดีกว่า start up อีก โอกาสเหล่านี้จับต้องได้และอยู่ใกล้ตัว
คำว่า Innovation มันกว้างมาก อาจจะไม่ใช่แค่ tech อย่างเดียว brand innovation สามารถทำยอดขายเป็นพันล้านได้ อาจจะใช้ AI มาทำบ้าง แต่ท้ายที่สุดคนเป็นคนเลือก strategy
ไม่ต้องเป็นเทคที่ล้ำที่สุด แต่เป็นความใส่ใจ innovation แบบไทย ๆ ก็จะมีที่ยืน
คุณป้อมเสริมว่า แนวโน้มธุรกิจครึ่งปีหลัง
– เริ่มนำ AI มาใช้กับธุรกิจ ไ่ม่ใช่แค่ผู้บริหาร แต่ทุกคน
– เพิ่มช่องทางการขายสู่ออนไลน์มากขึ้น รวมทั้งขายต่างประเทศด้วย
– เพิ่มช่องทางการขายผ่าน affiliate marketing
– นำ Customer Data Platform มาใช้บริหาร รวมข้อมูลลูกค้า และทำให้เกิดการซื้อซ้ำ
คุณหมูฝากปิดท้ายไว้ว่าวันนึง AI จะกลายเป็นเรื่องธรรมดา
นอกจาก brand innovation แล้วก็ต้องมี specialist ของเราด้วย