เป็นร้านอาหารธรรมดา การเก็บ Data จำเป็นด้วยหรอ ?
วันนี้คุณแต๋ง After Yum ได้พิสูจน์ให้เห็นจากปรากฏการณ์ร้านยำที่เป็นกระแสทั่วโซเชียลแล้วว่า จากร้านยำในปั๊มธรรมดา ก็สามารถใช้ Data พาร้านดังเป็นไวรัลจนรับลูกค้าแทบไม่ทันได้
แล้ว Key success จากการใช้ Data มาพัฒนาร้านของคุณแต๋งคืออะไร วันนี้ Skooldio สรุปมาให้อ่านในที่เดียว
Table of Contents
4 เทคนิคใช้ Data กับธุรกิจ
1. เก็บ Data หมดตั้งแต่ใบเสร็จและใบสั่งซื้อ
คุณแต๋งให้ความสำคัญกับ Data มาก เพราะเชื่อว่ายุคนี้คนที่มี Data คือคนที่มีโอกาสรวยมหาศาล ชนิดที่ว่าเก็บรายละเอียดแม้กระทั่งจุดเล็ก ๆ อย่างใบเสร็จทุกใบเสร็จ แถมเริ่มเก็บตั้งแต่วันแรกที่เปิดร้าน
ใบสั่งซื้อก็เช่นกัน คุณแต๋งเล่าว่าด้วยความเป็นคนชอบเก็บเลยทำให้รู้ข้อมูลทุกอย่าง เก็บถึงขั้นที่ว่าวันนี้มะนาวเข้ากี่กระสอบ หอยมีกี่ตัว กุ้งมีกี่ตัว fixed cost ต่าง ๆ เก็บหมด
และด้วยความที่เป็นร้านยำของสด เพราะฉะนั้น คุณภาพต้องมาก่อน ของต้องดีจริง สดจริง ดังนั้นเรื่องการบริหารสต๊อกจึงสำคัญ จะทำยังไงไม่มีของเพียงพอวันต่อวัน เป็นไปไม่ได้เลยถ้าไม่มีการเก็บ Data จากใบสั่งซื้อที่สามารถนำมาคำนวณสต๊อกในแต่ละวันได้
2. เพราะมี Data เลยรู้จักลูกค้าดี ชนิดที่เดินมาก็รู้เลยว่าคนนี้แหละ ‘ลูกค้าเรา’
คนอื่นอาจจะดูรีวิวแค่ว่าลูกค้าคนนี้ชอบหรือไม่ชอบอาหารร้านเรา แต่คุณแต๋งดูมากกว่านั้น
คุณแต๋งแนะนำว่ารีวิวที่ได้มา อย่าอ่านแค่ความคิดเห็น มองไปให้ลึกถึง Insight ของคน ๆ นั้น เพราะตอนนี้รู้แค่ว่าลูกค้าของเราเป็นกลุ่มอายุเท่าไหร่ไม่พอ ต้องรู้ว่าเค้าคือใคร เสื้อผ้าหน้าผม ลักษณะการแต่งกาย นิสัย เขาทำงานอะไร แล้วลองเอาตัวเองลงไปนั่งในมุมลูกค้าเหล่านี้ เราจะรู้ว่าเขาต้องการอะไร
คุณแต๋งถึงขนาดยอมทำ Rider เองในตอนแรก เพราะอยากเก็บข้อมูลว่าลูกค้าอยู่ในที่ไหนบ้าง ที่ไหนลูกค้ากระจุก ที่ไหนลูกค้ากระจาย เก็บทุกอย่าง เวลาในการส่ง รอบส่ง ที่อยู่ลูกค้า
3. ใช้ Data ตัดสินใจทุกเรื่อง
การจะเปิดสาขาแต่ละที่ ไม่ใช่เปิดขึ้นมาลอย ๆ แต่ดู data ก่อน ประชากรหลักประชากรแฝง มีเท่าไหร่ ลองทำ research แบบที่ดูกระทั่งคนย่านนี้ชอบกินเปรี้ยว หรือย่านนี้จะติดหวานหน่อย ศึกษายันว่าย่านนี้คอหมูขายดี แต่สามชั้นขายไม่ค่อยดีเพราะคนไม่กินมัน เมื่อมั่นใจจริง ๆ จึงสามารถทำอาหารที่มีรสที่คนชอบได้
4. นำ Data ไปต่อยอดออกสินค้าใหม่ขยายตลาด
เพราะเก็บข้อมูลเป็นระบบ จึงเอาข้อมูลทุกอย่างมาคาดการณ์ Forecast ได้ อีกทั้งสามารถนำ Data มาพัฒนาออกสินค้าใหม่
จะเห็นได้ว่าปัจจุบัน After Yum ไม่ได้ขายแค่ยำอย่างเดียวแล้ว ยังออกผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อย่างน้ำยำและน้ำปลาร้าบรรจุขวด ซึ่งก็ได้มาจากการเก็บ Data หา Insight จนรู้ว่า “ลูกค้าต้องการอะไร”
หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจที่มีข้อมูลมากมายแต่ยังไม่รู้จะนำมาปรับใช้กับธุรกิจอย่างไร หรือสนใจอยากเริ่มต้นวางแผนการจัดการข้อมูล นี่คือโอกาสในการยกระดับธุรกิจคุณให้กลายเป็นเป็นธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล
ขอแนะนำ 2 หลักสูตรสำหรับผู้นำองค์กร หรือเจ้าของธุรกิจ ที่ต้องการเข้าใจการทำ Digital Transformation หรือ Data Strategies จริงๆ แบบครบทุกมุม เรียนรู้ผ่านประสบการณ์โดยตรงจากคุณต้า-วิโรจน์ Co-Founder จาก Skooldio และอดีต Data Scientist ของ Facebook
Digital Leadership Essentials หลักสูตรเข้มข้น 2 วันพร้อมรันธุรกิจ สำหรับเจ้าของธุรกิจที่ต้องการเข้าใจการทำ Digital Transformation แบบครบทุกมุม เพิ่อพร้อมแข่งขันในวันที่โลกเข้าสู่ยุคดิจิทัล
Unlocking the Winning Edge with Data-Driven Strategies หลักสูตร 1 วัน สำหรับผู้บริหาร ผู้นำ ผู้จัดการ หรือหัวหน้าทีม ที่รู้อยู่แล้วว่า Data สำคัญอย่างไร แต่อยากรู้วิธีการใช้ Data ในทุกการตัดสินใจ พร้อมสร้างองค์กรที่ทุกคนใช้ Data เป็น
ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก ::
- งานทอล์กของ แต๋ง–กฤษฏิ์กุล โดย capitalread.co
- พลิกตำราร้านยำ After Yum กับการใช้ “ดาต้า” บริหารธุรกิจและมัดใจลูกค้าให้ประสบความสำเร็จ เขียนโดย Brandbuffet
- เจาะลึก วิธีบริหารธุรกิจให้ปัง ฉบับคุณแต๋ง After Yum เขียนโดย Longtungirl
- นับเงินสดจนไม่มีแรงนับ! ส่องเคล็ด(ไม่)ลับฉบับ “อาฟเตอร์ยำ” เขียนโดย Bangkokbiznews