Table of Contents
เราต้องการเป็นแบรนด์จดโน้ตที่โดดเด่นที่สุดในโลก
นี่คือ เป้าหมายของ Steven Chan ผู้ก่อตั้ง Goodnotes แอปพลิเคชั่นจดโน้ตระดับโลก ที่ทุกคนมักจะต้องมีโหลดติดเครื่องเอาไว้ ซึ่งในปัจจุบันมีผู้ใช้งานอยู่ทั่วประเทศถึง 25 ล้านคน
ในยุคที่ AI กำลังพลิกโลกแห่ง Productivity Goodnotes กลับไม่ได้มองว่า AI จะมาแทนที่มนุษย์ แต่มันจะเข้ามาเป็น ‘เพื่อนคู่คิด’ ที่ช่วยให้เราสามารถคิดได้ดีขึ้น เรียนรู้ได้ลึกขึ้น และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ได้ง่ายกว่าเดิม
บทความนี้ เราจะพาทุกคนไปพูดคุยกับคุณ Steven Chan ผู้ก่อตั้ง Goodnotes กันว่าเขามีมุมมองอย่างไรกับการเอา ‘AI’ เข้ามาผสานใช้กับ ‘พลังแห่งการเขียนด้วยมือ’ แล้วมันจะเปลี่ยนแปลงอนาคตของการจดโน้ตอย่างไรบ้าง?
ในวันที่ AI เข้ามา Goodnotes ยังคงเชื่อใน “พลังของการเขียนด้วยมือ”
เมื่อคุณใช้มือเขียน มันจะช่วยให้คุณจดจำสิ่งต่าง ๆ ได้ดีขึ้น และกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์
การเขียนเป็นเหมือนช่วงจังหวะเล็ก ๆ ที่ทำให้เราช้าลงพอจะทบทวนความคิดของตัวเองทีละบรรทัด เห็นเส้นทางของคำและภาพที่ค่อย ๆ ก่อเป็นไอเดียใหม่ และเมื่อ Goodnotes นำ AI เข้ามาผสานกับการเขียน จึงยิ่งช่วยให้การจดโน้ตสนุกขึ้นและช่วยยกระดับการทำงานให้ง่ายขึ้นกว่าเดิม
อย่างเช่น การร่างเนื้อหาที่เราสามารถให้ AI ช่วยร่างเนื้อหาเริ่มต้นได้ โดยจะอิงจากบทสนทนาที่คุณคุยกับ AI หรือการทำสรุประหว่างประชุม ที่ถ้าหากคุณเขียนหรือพิมพ์เฉพาะสิ่งสำคัญลงไป AI ก็จะสามารถเติมเต็มรายละเอียดต่าง ๆ ให้ครบถ้วนได้ โดยอิงจากการถอดและข้อมูลที่คุณจด
และเพื่อทำให้ประสบการณ์นี้ราบรื่นยิ่งขึ้น Goodnotes เองก็มีฟีเจอร์หลายอย่างที่ถูกออกแบบมาให้รองรับการทำงานร่วมกับ AI ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการคิดไอเดีย การร่างโครงเนื้อหา ไปจนถึงการปรับแต่งข้อมูลให้สมบูรณ์
ตัวอย่างฟีเจอร์
- Whiteboards – พื้นที่ไร้ขีดจำกัด เหมาะสำหรับการระดมสมองอย่างรวดเร็วหรือการจัดวางแนวคิดที่ซับซ้อนให้ชัดเจน
- Text Documents – เป็นพื้นที่ที่เน้นการร่างและปรับปรุงงานให้มีความชัดเจน สามารถ ฝังรูปภาพ แผนภูมิ และเนื้อหาอื่น ๆ เข้าไปในเอกสารได้
- Goodnotes AI – AI เป็นเหมือนคู่คิดของคุณ ที่สามารถช่วยได้ตั้งแต่การสรุปโน้ต ถามโต้ตอบ ช่วยไฮไลต์หรือสรุปโน้ตที่มีอยู่ ช่วยเสนอแนะไอเดีย หรือรวมไปถึงช่วยร่างเทมเพลตให้
AI ช่วยให้คุณไม่ต้องเขียนทุกอย่างลงไป แต่ช่วยให้คุณ ‘คิด’ ในสิ่งที่สำคัญที่สุดแทน
เขาเล่าต่อว่า AI มีความสามารถในการเข้าใจภาษาธรรมชาติ (Natural Language) ทำให้มันสรุป ไฮไลต์ หรือจัดระเบียบข้อมูลจำนวนมากได้ง่ายขึ้น ราวกับเป็น ‘เพื่อนคู่คิด’ ที่ช่วยชี้ให้เห็นประเด็นสำคัญ หรือแม้แต่จุดบอดที่เราอาจมองข้ามไป
ดังนั้นเมื่อมีคำถามว่า AI จะเข้ามาแทนที่มนุษย์ไหม สำหรับเขาคำตอบคือ “ไม่ใช่” เขามองว่าอนาคตจะเป็นพื้นที่ที่ “มนุษย์และ AI ทำงานร่วมกันมากกว่า” มนุษย์ยังคงเขียน คิด และสร้างสรรค์ ส่วน AI ก็เข้ามาช่วยให้ทุกอย่างไหลลื่นและมีประสิทธิภาพขึ้น เหมือนการทำงานคู่กับเพื่อนคู่คิดที่ไว้ใจได้อีกหนึ่งคน
โดยในตอนที่ ChatGPT เปิดตัว ยิ่งทำให้เขามั่นใจว่า Goodnotes ยังพัฒนาไปได้อีกไกล เพราะพลังของ AI เปิดประตูให้เกิดฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ช่วยขยายประสบการณ์การจดโน้ตให้กว้างกว่าที่เคยเป็นมา
เมื่อ AI เข้ามา Disrupt โลกของการจดโน้ต หลายคนก็เริ่มสงสัยว่า…ต่อไปการจดโน้ตจะตายไหม?
ไม่เลยครับ การจดโน้ตจะไม่ตาย มันจะยังคงอยู่ และเมื่อมี AI เข้ามาช่วยจะมีประโยชน์มากขึ้นด้วยซ้ำ
สำหรับเขาแล้ว ‘การจดโน้ต’ ไม่ได้เป็นแค่การเขียนบันทึกลงบนหน้ากระดาษ แต่คือหัวใจของการเรียนรู้ การระดมความคิด และการทำความเข้าใจตัวเองอย่างลึกซึ้ง ในแบบที่ AI มาแทนที่ไม่ได้ เพราะกระบวนการค่อย ๆ เขียน ค่อย ๆ คิดนี่แหละ ที่ทำให้มนุษย์ได้ทบทวนและมองเห็นความคิดของตัวเองชัดเจนขึ้น
เมื่อ AI เข้ามาในโลกของการจดโน้ต เขาจึงมองว่ามันไม่ใช่ผู้มาแย่งพื้นที่ในการกระบวนการความคิดของมนุษย์ แต่มันคือผู้ช่วยที่ทำให้มนุษย์สามารถ ‘ปลดล็อกศักยภาพ’ ของตัวเองจากงานที่ซ้ำซากและน่าเบื่อ ช่วยเติมเต็มความคิดให้ชัดขึ้นมากกว่า
ซึ่งเมื่อหากเราย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้นของ Goodnotes แล้ว เหตุผลที่คุณ Steven Chan เริ่มสร้างแอปนี้ขึ้นมานั้นกลับเรียบง่ายมาก เพราะเขาแค่ต้องการใช้มันแทนสมุดที่วางบนโต๊ะของตัวเองเท่านั้น ตัวเขาเองไม่ได้คิดเลยว่าจากความต้องการเล็ก ๆ ของนักศึกษาคนหนึ่ง จะเติบโตจนมีผู้ใช้ทั่วโลกมากกว่า 25 ล้านคนทั่วโลกแล้ว
อะไรทำให้คนยังรักและเลือกใช้ Goodnotes อย่างต่อเนื่อง?
สิ่งสำคัญที่สุดของเราคือผู้ใช้งาน เราเลยต้องสร้าง Feedback Loop ที่ดี
หลายฟีเจอร์ของ Goodnotes จริง ๆ แล้วเกิดขึ้นถูกจากเสียงของผู้ใช้โดยตรง ไม่ว่าจะเป็น Whiteboard หรือ Infinite Canvas ฟีเจอร์เหล่านี้ล้วนมาจากความต้องการใช้งานของผู้ใช้
นอกจากนี้สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่าง คือ ไอเดียใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นมานั้นมาจาก Hackathon ภายในบริษัท ที่จัดขึ้นทุกไตรมาส เป็นพื้นที่เปิดให้ทีมงานทุกคนได้ทดลอง คิดค้น และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ อย่างอิสระ
เมื่อมองเข้าไปลึก ๆ เราจะเห็นว่าเบื้องหลังความสำเร็จของ Goodnotes จึงไม่ได้มาจากแค่ผลิตภัณฑ์ที่ดีเพียงอย่างเดียว แต่ยังมาจาก “ทีม” ที่มีความหลงใหลในสิ่งเดียวกัน เขาเล่าให้ฟังว่าองค์กรที่ดีคือ องค์กรที่ให้ ‘อิสระ (Autonomy)’ ทีมงานอย่างเต็มที่ในการสร้างสรรค์
อนาคตของ Goodnotes หลังจากนี้
ในอีก 5 ปีข้างหน้า คุณ Steven Chan ตั้งเป้าว่า
Goodnotes จะกลายเป็นแบรนด์จดโน้ตที่โดดเด่นที่สุดในโลก ไม่ใช่เพียงแอปบนแท็บเล็ต แต่เป็นแพลตฟอร์มที่รองรับทุกประเภท และทุกอุปกรณ์
เป้าหมายของเขาไม่ใช่แค่ทำให้การจดโน้ตสะดวกขึ้น แต่คือ ต้องการให้ทุกคนสามารถบันทึกความคิดได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะคิดด้วยมือ เสียง หรือภาพ ด้วยการนำเอา AI เข้ามาทำงานร่วมกันกับผู้ใช้งาน เพื่อสร้างพื้นที่ที่สามารถสร้างสรรค์ไอเดีย ให้เราสามารถค้นพบสิ่งใหม่ได้มากขึ้น ลึกขึ้นกว่าเดิม ให้การจดโน้ตไม่ได้หยุดอยู่แค่บนหน้าจอ แต่กลายเป็นจุดเริ่มต้นของความคิดที่ไม่มีวันรู้จบ
ถ้าคุณอยากเห็นว่าอนาคตของการจดโน้ตและการคิดของมนุษย์ในยุค AI จะเดินหน้าไปทางไหนต่อ? AI จะเข้ามาผสานกระบวนการคิดและเขียนด้วยมือยังไงได้บ้าง? สามารถรับชมเนื้อหาต่อได้ใน รายการ
แล้วคุณอาจมองการ “พลังแห่งการเขียนด้วยมือ” ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ✨










