แค่ส่งคนไปเทรน AI อาจไม่พออีกต่อไป ตัวผู้นำเองก็ต้องตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้น
สรุปเซสชัน Is your workforce ready for AI? โดยดร.ภิรตา ภักดีสัตยพงศ์ Consulting Partner PwC Thailand, Executive Committee PMAT ในงาน Thailand HR Tech Conference & Exposition 2024 PMAT – Personnel Management Association of Thailand
องค์กรต้องเรียนรู้และพัฒนาทักษะพนักงานอย่างไรให้พร้อมสำหรับการใช้ AI
หลาย ๆ องค์กรเริ่มลงทุนซื้อเทคโนโลยีใหม่ ๆ ส่งพนักงานไปเทรนเสียเงินมากมาย แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าพนักงานของเรามีความสามารถพอที่จะใช้ AI ?
❓ต้องเริ่มตั้งคำถามก่อนว่าเราจะสร้าง Culture และสร้าง Mindset ให้พนักงานยังไง
การเปลี่ยนแปลงมีอยู่เสมอ ไม่ใช่แค่เราที่รู้สึก แต่พนักงานก็รู้สึกได้
1. Change pressure มากกว่าครึ่งนึงของพนักงานคิดว่างานของพวกเขามีการเปลี่ยนแปลงมากเกินไป workload มากขึ้นแต่เงินกลับเท่าเดิม
2. More restless พนักงานหลายคนรู้สึกได้ถึงความไม่มั่นคง ต้องการเงินเดือนเพิ่มขึ้น ถ้าเราไม่สามารถจะให้เขาได้เขาก็พร้อมจะไป เป็นสัดส่วนเกือบ 1ใน 3 ที่พนักงานของเราจะเปลี่ยนงานใน 12 เดือน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
3. Cost of living ด้วยสภาวะทางเศรษฐกิจ ทำให้พนักงานมีเงินไม่พอใช้ถึงปลายเดือน
4. Skill value มากกว่าครึ่งของพนักงานมีการวางแผนจะเปลี่ยนนายจ้าง ถ้าไม่มีโอกาสในการเรียนรู้ที่มากพอ พนักงานมีความคาดหวังที่องค์กรจะมีส่วนช่วยในการพัฒนาทักษะให้พวกเค้า ถ้าองค์กรไม่มีความพร้อมมากพอ พนักงานก็จะไม่อยู่กับเราต่อ
5. GenAI coming into focus กว่า 12% ของพนักงานเริ่มใช้ AI ในทุกวัน และคนกลุ่มนี้มีความคาดหวังว่าจะทำให้เวลาที่ใช้ในการทำงานมีประสิทธิภาพขึ้น และพวกเค้าเชื่อกว่า AI จะช่วยในเรื่องของ productivity
Build an AI-ready workforce ใน 3 มุมมอง
มุมมองที่ 1️⃣ ‘Leader’ plays a key role แน่นอนว่าผู้นำมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางและนโยบาย ทำแค่ส่งคนไปเทรนเรื่อง AI อาจไม่พออีกต่อไป ตัวผู้นำเองก็ต้องตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้น
🔸 Roadmap เพื่อนำ AI มาใช้ให้สำเร็จ
– Define Clear Objectives: ระบุปัญหาในองกรค์ที่จะนำ AI มาช่วย ตั้งเป้าหมายที่จะไปและวัดผลได้
– Develop an AI Roadmap: สร้าง roadmap และ milestone ในการที่จะ implement AI เข้ามา
– Foster Collaboration: ต้องจัดเวทีให้เกิดการ collaboration ในองค์กร ด้วยการสร้างทีมที่เป็น cross-functional team เพื่อสร้างมุมมองที่รอบด้านมากขึ้นในการนำ AI เข้ามาใช้
– Invest in Talent: ต้องมีการ recruit คนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน AI เพื่อ deploy AI model ให้ effective นอกจากนี้ยังต้องมีการ upskill ด้าน AI ให้กับพนักงานด้วย
– Start Small, Scale Fast: เริ่มนำ AI มาใช้ในงานเล็กๆก่อน จากนั้นวัดผลและเก็บ feedback ก่อนที่จะนำไปกับทั้งองค์กร
– Embrace Change: สร้าง culture ที่มีการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมให้พนักงานนำ AI มาใช้ เพื่อสร้าง new ways of working
🔸 6 Leader Skills ในยุค AI
– Strategic Visioning: ใช้ AI เป็นหลักในการเติบโตระยะยาว upskill ให้พนักงาน เพื่อให้เป็น AI-driven
– Change Managgement:การบริหารจัดการความเปลี่ยนแปลง เข้าใจวัฒนธรรมองค์กร อธิบายให้คนในองค์กรเข้าใจถึงโอกาสจาก AI
– Agility: ปรับตัวตามความต้องการของตลาดและลูกค้าได้ เปิดรับไอเดียใหม่ๆ
– Interdisciplinary Collaborattion: ส่งเสริมให้มีการทำงานแบบข้ามฝ่าย สร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการสื่อสาร และการฟัง จากแต่ละฝ่ายที่มี background ต่างกัน
– Critical Thinking and Problem Solving: สามารถวิเคราะห์ data ที่มีความซับซ้อนได้ เพื่อตัดสินใจ
– Governance and Risk Management: เข้าใจเรื่องข้อกฎหมาย เข้าใจเรื่องความเสี่ยงที่ข้อมูลจะรั่วไหลและหาวิธีป้องกันความเสี่ยง
==================================
มุมมองที่ 2️⃣ Upskill ‘employees’ เราต้องหาคำตอบว่าทำยังไงให้พนักงานต้องการที่จะยกระดับทักษะตัวเอง
เราจะแบ่งทักษะได้ 2 แบบ คือ
🔸 Fundamental Skill ทักษะทั่วไปที่พนักงานควรมี
– พนักงานต้องมีความเข้าใจใน Data และตัว AI เองต้องทำความเข้าใจว่า Data เอามาทำอะไรได้บ้าง ต้องเข้าใจโครงสร้าง
– มี Growth mindset เปิดรับและเตรียมพร้อมที่จะเรียนรู้จากความเปลี่ยนแปลง
– การมี critical thinking ต้องมีวิจารณญาณในการแยกแยะข้อมูลเพราะ AI ไม่ได้ให้คำตอบที่ถูกต้องทั้งหมด พนักงานจึงควรวิเคราะห์และนำข้อมูลไปต่อยอดให้เป็น
– จริยธรรมและความรับผิดชอบในการทำงาน แน่นอนว่าการใช้ AI ต้องคำนึงถึงจริยธรรมในการทำข้อมูลมาใช้เป็นสำคัญ พนักงานควรตระหนักรู้ได้ว่าควรจะใช้งานอย่างไร
– ความรู้ความเข้าใจในเรื่อง cybersecurity เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลเกิดการรั่วไหล และไม่นำข้อมูลที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์มาใช้งาน
– มีความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นร่วมกับคนในบริษัทเดียวกันหรือ stakeholders
🔸 Technical AI development Skills
– ความสามารถด้านการเขียนโปรแกรมและการพัฒนาซอฟต์แวร์
– ความเชี่ยวชาญด้านการเรียนรู้ Machine Learning และการ Deep Learning
– มีความรู้เกี่ยวกับ Natural Language Processing เพื่อสร้างข้อความและ Computer Vision
– คุ้นเคยกับสภาวะแวดล้อมการพัฒนาแบบบูรณาการ (IDE)
– มีความเชี่ยวชาญในการออกแบบคำสั่ง (Prompt Engineering)
แล้วเราจะพัฒนา 2 ทักษะนี้ได้ยังไง
เราอาจคุ้นเคยกับการ training การทำเวิร์กชอปให้พนักงานแล้ว แต่ HR อาจต้องลองหาวิธีใหม่ ๆ มาใช้
เช่น Reward ถ้าเรามีคนเก่งๆ เราลองไป push เขาด้วยรางวัลอาจะทำให้พนักงานแสดง potential ออกมาได้อย่างเต็มที่ หรืออาจมีการทำ sandbox สร้างพื้นที่ที่ให้พนักงานได้ลองใช้ พัฒนา และทดสอบ AI เพื่อให้ทำงานไ้ด้อย่างมีประสิทธิภาพ
==================================
มุมมองที่ 3️⃣ Bulid the ‘culture’ สร้างวัฒนธรรมองค์กรใหม่จากการเปลี่ยนแปลง
ลักษณะ culture ของบริษัทที่เป็น AI-First จึงจะมีดังนี้
– Openness and adaptability ต้องเปิดกว้าง ปรับแนวคิด เทคโนโลยี และวิธีการทำงานให้คล่องตัวมากพอที่จะนำไปใช้จริงได้
– Continuous Learning ส่งเสริมให้พนักงานทุกคนต้องมีการเรียนรู้ตลอดเวลา มีทรัพยากรที่เพียงพอที่จะให้เค้าเรียนรู้
– Risk taking and resilience ปลูกฝังให้พนักงานทุกคนยอมรับความเสี่ยง และส่งเสริมความยืดหยุ่นโดยไม่มองว่าความผิดพลาดคือความล้มเหลวแต่ให้มองเป็นโอกาสที่จะได้เรียนรู้แทน
– Data-driven decision making ให้พนักงานเข้าถึงข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หัวใจสำคัญในในการจะสร้าง culture ได้ องค์กรต้อง ทำให้พนักงานรับรู้ได้ว่าจุดมุ่งหมายคืออะไร ต้องสร้าง sense of purpose ให้พนักงานสามารถนำเอาตัวตนที่แท้จริงออกมาใช้ในการทำงาน สนับสนุนและสร้างพื้นที่ให้พวกเค้าได้ทดลองสิ่งใหม่ ๆ และสร้างขวัญกำลังใจให้พนักงานกล้าที่จะปลดล็อกศักยภาพของตัวเอง
================================
💡 4 mindsets ของการประยุกต์ใช้ AI ในการทำงาน
– Future-positive mindset: เปิดรับไอเดียใหม่ๆ อย่าคิดว่าของเดิมมันดีอยู่แล้ว ตื่นตัวในยุคของ AI มองเห็นโอกาสว่า AI จะสร้าง value ให้องค์กรได้อย่างไร
– Comfort with ambiguity อยู่กับความครุมเครือให้ได้ เพราะ AI ม่ได้เริ่มแล้วเก่งเลย เราต้องค่อยๆเทรนมัน
– Agile mindset เปิดใจให้กับ AI tools ต่างๆ เพื่อหา insight ใหม่ๆ ที่ได้จาก AI
– Collective mindset เข้าใจถึง impact ที่จะเกิดขึ้นเมื่อนำ AI มาใช
💡 5 วิธี ADOPT ใช้ AI
A: Agile adjusting to the pace
D: Data driven to learn and refine the journey
O :Optimistic continuously reinforce the positive
P: Personalized the right content at the right time
T: Trust in AI, and how it will be used
💡 Best practice ของการ adopt ใช้ AI ภายในองค์กร
– Ethical Considerations and Bias Mitigation: การประยุกต์ใช้ AI ต้องใช้อย่างมีจริยธรรมและโปร่งใส และองค์กรต้องคำนึงถึง อคติที่เกิดขึ้นจาก AI
– Stakeholder Engagement:ให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนมีส่วนร่วมในการนำ AI เข้ามาใช้ทั้ง พนักงาน ลูกค้า เพื่อสร้าง trust และความโปร่งใส
– Leveraging Partnerships: ร่วมมือกับสถาบันวิจัยหรือผู้นำในอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อทำให้ใช้ AI ในองค์กรได้ดียิ่งขึ้น
– Regulatory Compliance and Security: เมื่อมีการใช้ AI ในการจัดการข้อมูล องค์กรต้อง proactive ในการที่จะจัดการเรื่อง cybersecurity และ ระวัง AI ในการเข้าถึงข้อมูลที่ sensitive
– Monitor and Adjust: ทดลองใช้ AI tool และ strategy กับองค์กรพร้อมเก็บ feedback จากพนักงาน
– Promote and Open Culture: สร้าง culture ที่ทำให้พนักงานทุกคนกล้าพูดเรื่องที่เป็นปัญหาและเปิดโอกาสให้ถามคำถาม
❗️ อย่ากลัว AI จะมาแย่งงานเลย ให้กลัวคนที่ใช้ AI เป็นดีกว่า ครูหลายคนห้ามเด็กใช้ AI ทำงานเพราะกลัวเด็กสมองฝ่อ ให้คิดในอีกมุมว่า จริง ๆ แล้วถ้าเราใช้มันเป็น จะทำให้เรายิ่งคิดลึกมากขึ้น เราสามารถเอาคำตอบ AI ไปต่อยอดได้ และเป็นตัวช่วยในการ pre-draft เราก็เอาเวลาที่เหลือมา analyze และ deep drive ได้
#PMAT #ThailandHRTech2024 #HRTechExpo #HRConference #HREvent #HRSustainable #HRLeadership #HRNetworking #HRInnovation #DigitalLeadership #AI