หลายคนอาจสงสัยว่าฝึกงาน Skooldio ได้ทำอะไรบ้าง วันนี้เราจะพาทุกคนมาดูหนึ่งในกิจกรรมที่เด็กฝึกงาน Skooldio ได้ทำนั่นคือ การแข่ง Hackathon
สำหรับใครที่ยังไม่รู้จัก Hackathon คือ การแข่งขันที่ทีมต่าง ๆ จะต้องช่วยกันคิดไอเดียหรือสร้างสิ่งใหม่ ๆ ทำแผนธุรกิจ แล้วนำเสนอผลงานต่อกรรมการในตอนจบ
ซึ่งทำให้เราได้เรียนรู้การทำงานเสมือนจริง ร่วมกับทีมต่าง ๆ ทั้ง Business Development (BD), Developer (Dev), Marketing (MKT), UX/UI ได้แลกเปลี่ยนความคิดในมุมมองของแต่ละคน และออกแบบงานออกมาเป็นโปรเจกต์ที่สามารถนำไปใช้ได้จริง และสร้าง impact ให้องค์กร
บทความนี้จะพาส่องกันว่า Hackathon 5 วันของ intern ที่ Skooldio ต้องทำอะไรกันบ้าง
Table of Contents
Day 0: วันรับโจทย์และจัดทีม
โจทย์แต่ละปีจะไม่เหมือนกันแต่ปีนี้มาในธีม AI-powered transformation หรือ การนำ AI มาใช้ในองค์กรเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
กลุ่มที่แต่ละคนได้อยู่ก็มาจากการสุ่ม ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนได้รู้จักเพื่อนใหม่ต่างฝ่าย หลังฟังโจทย์และจับกลุ่มเสร็จ แต่ละกลุ่มก็จะจับกลุ่มช่วยกัน brainstorm ไอเดีย
แต่ละฝ่ายก็จะพูดไอเดียในมุมมองของตัวเองออกมา เช่น เราที่เป็น MKT ก็ช่วยเสนอไอเดียในมุมมองการตลาด ขณะที่ฝ่าย Dev จะคอยช่วยประเมินว่าไอเดียนั้นในเชิงเทคนิคสามารถทำได้จริงหรือไม่
เมื่อระดมความคิดและสรุปหัวข้อที่เลือกได้แล้ว แต่ละกลุ่มก็จะเข้าสู่ช่วง Coaching Session ในวันถัด ๆ ไป

Day 0: รับโจทย์ Hackathon
Day 1-3: Coaching Section
Coaching section คือช่วงที่แต่ละกลุ่มจะได้นำไอเดียที่คิดไว้ไป consult กับพี่ ๆ จากทีมต่าง ๆ ทั้ง MKT, BD, PM / UX/UI / DEV ทีมละ 15 นาทีต่อฝ่าย
หลัก ๆ ก็จะเป็นการเอาไอเดียที่เราคิดมาไปเล่าให้พี่เขาฟัง และให้พี่ ๆ ช่วยคอมเมนต์ว่า อะไรที่ดีหรืออะไรที่สามารถพัฒนาให้ดีขึ้นได้ เพื่อเป็นแนวทางให้เราต่อยอดไอเดียของเราต่อไป
ซึ่งเราก็รู้สึกว่าพี่ ๆ แต่ละฝ่ายให้ Feedback ได้ค่อนข้างตรงจุด ทำให้เราเห็นจุดอ่อนของไอเดียตัวเองชัดขึ้น และสามารถนำไปปรับแก้ให้ ไอเดียสมบูรณ์และเป็นไปได้จริงมากยิ่งขึ้น

Day 1-3: Coaching Section
Day 4-5: ลงมือทำจริง
หลังจาก Coaching section จบ หลังจากนั้น ก็จะเป็นการนำมาทำจริง ซึ่งแต่ละฝ่ายก็จะทำหน้าที่ต่างกันออกไป เช่น ฝ่าย Dev เขียนโค้ด ฝ่าย UX/UI ช่วยทำหน้าตาเพจ และฝ่าย MKT, BD ช่วยกันทำ pitching slide
ในช่วงนี้ถือว่าเป็นความท้าทายในการทำงานมาก ๆ เพราะ เรามีเวลาจำกัด แต่ต้องพยายามนำไอเดียที่เราคิดออกมาให้ดูสมจริงที่สุด ทั้งตัว Demo และการเสนอไอเดียให้ดูทำได้จริง

Day 4-5: ลงมือทำจริง
D-Day: Pitching Day
วันสุดท้าย คือการนำเสนอผลงานต่อหน้าคณะกรรมการ แต่ละกลุ่มก็จะออกมา Pitching ตามลำดับที่สุ่มได้ มีเวลาในการ Pitching 10 นาที และ Q&A 5 นาที
หลัง Pitching จบ พี่ ๆ กรรมการก็จะให้คอมเมนต์ทั้งข้อดีและข้อที่ควรปรับปรุง ทำให้เราได้มุมมองใหม่ ๆ และข้อคิดดี ๆ ที่สามารถนำไปพัฒนาไอเดีย ถ้าได้ทำ Hackathon ในโอกาสต่อไป

D-day: Pitching Day
ความท้าทายของ Hackathon
ระหว่างการทำงาน ตลอด 5 วัน ก็มีบางช่วงที่เจออุปสรรคเหมือนกัน อย่างในกลุ่มเราก็มีจังหวะที่ทำงานไปแล้วเพิ่งมารู้ว่าความเข้าใจของแต่ละฝ่ายไม่ตรงกัน ต้องมานั่งปรับความเข้าใจและ เคลียร์โจทย์ร่วมกันใหม่อีกรอบ เพื่อให้ไปในทิศทางเดียวกัน
รวมถึงบางไอเดียที่คิดมา พี่ ๆ ก็ช่วยชี้จุดอ่อน ว่ายังมีอะไรที่ควรปรับ ทำให้เราต้องกลับไปแก้และวางแผนใหม่ในบางส่วน
สิ่งที่ได้เรียนรู้จาก Hackathon
การทำ Hackathon ในครั้งนี้ทำให้เราได้ฝึกการทำงานแบบร่วมกับเพื่อนต่างแผนก ทำให้ได้เห็นว่าแต่ละฝ่ายคิดและทำงานอย่างไร เป็นทั้งการเรียนรู้และสร้าง connection กับเพื่อน ๆ ใหม่ ๆ ไปในตัว
ช่วยพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาในเวลาที่จำกัด เรียนรู้การนำ AI มาใช้ในการแก้ปัญหาองค์กร และการวางแผน Implementation ให้ไอเดียสามารถนำไปใช้งานได้จริงในโลกธุรกิจ
และนี่ก็คือทั้งหมดของกิจกรรม Intern Hackathon จาก Skooldio ถึงแม้ช่วงเวลา 5 วันนี้จะเข้มข้นและเต็มไปด้วยความท้าทาย แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีที่ทำให้เราได้เรียนรู้และพัฒนาตัวเองในหลาย ๆ ด้าน
ใครที่อยากมีประสบการณ์ดี ๆ แบบนี้ อย่าลืมติดตามโอกาสสมัคร Intern ที่ Skooldio กันนะ รายละเอียดติดตามได้ทางเพจ Facebook Skooldio เลย!