By หลายคนอาจคิดว่าการทำ Presentation เป็นเรื่องเล็ก ๆ แค่สไลด์ประกอบการพูด ไม่ต้องใส่ใจอะไรมาก แค่มีเนื้อหาครบก็พอ
แต่จริงๆ แล้ว Presentation นั้น อาจเป็น “จุดเปลี่ยน” สำคัญ ที่สร้างความประทับใจแรกให้กับผู้ฟังได้ในเวลาไม่กี่วินาที
ยิ่งถ้าเกิดคุณต้องทำ Presentation เพื่อไปพูดในโอกาสครั้งสำคัญ เช่น การขอทุนสนับสนุน หรือ การทำโปรเจกต์เสนอนักลงทุน แต่คุณไม่สามารถทำสไลด์ที่ดึงดูดให้คนสนใจได้มากพอ นั่นอาจทำให้คุณพลาดโอกาสดี ๆ ไปแบบไม่รู้ตัวก็ได้
Table of Contents
คุณจะเลือก Presentation แบบไหน?
ลองนึกภาพตามง่าย ๆ ว่าถ้าคุณเป็นผู้ชม แล้วคุณเห็น presentation 2 แบบด้านล่าง คุณอยากที่จะอ่านดูแบบไหนมากกว่ากัน
Presentation แบบที่ 1 | Image: Presentation Design Principles course
Presentation แบบที่ 2 | Image: Presentation Design Principles course
เราเชื่อว่าคำตอบในใจของใครหลายคนอาจจะเลือกแบบที่ 2 กัน ด้วยเหตุผลประมาณว่า สไลด์อ่านง่ายกว่า เข้าใจมากกว่า หรือดูสบายตามากกว่า
ถึงแม้เนื้อหาจะดีแค่ไหน แต่ถ้ารูปแบบการนำเสนอดูไม่น่าดึงดูด โอกาสที่เขาจะตั้งใจฟังคุณก็อาจจะหายไปตั้งแต่ยังไม่เริ่ม
เพราะฉะนั้น นี่คือเหตุผลง่ายๆ ว่าทำไมเราควรใส่ใจกับการออกแบบ Presentation
และเพื่อให้ทุกคนสามารถสร้างสไลด์ที่ทั้งมีประสิทธิภาพและน่าสนใจ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักหลักการสำคัญของการทำ Presentation ที่ดี พร้อมชี้ให้เห็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงในการออกแบบสไลด์
มาดูกันว่า “สไลด์ที่ดี” ควรเป็นอย่างไร และ อะไรคือสิ่งที่ไม่ควรทำ
Presentation ที่ดี ควรเป็นแบบไหน?
1. สื่อสารเข้าใจง่าย
คนส่วนใหญ่มักจะใช้เวลาแค่ไม่กี่วินาทีมองสไลด์แต่ละหน้า ดังนั้น Presentation ที่ดีควรสามารถ “สื่อสารสิ่งสำคัญได้ใน 3 วินาทีแรก” คนสามารถมองแล้วรู้เลยว่าเรากำลังจะเล่าเรื่องอะไรอยู่
2. สวยงามและน่ามอง
บางครั้งคุณอาจต้องนำเสนองานให้กับคนที่ยังไม่รู้จักคุณมาก่อน ในสถานการณ์แบบนี้ นอกจากเนื้อหาที่เข้าใจง่าย สิ่งที่จะช่วย “ดึงดูดความสนใจ” และสร้าง First Impression ได้ดีที่สุด ก็คือ Presentation ที่ดูดีและน่ามอง
เพราะสไลด์ที่ออกแบบมาอย่างตั้งใจ จะช่วยให้ผู้ฟังเปิดใจรับฟังมากขึ้น และพร้อมจะให้โอกาสคุณอธิบายสิ่งที่ต้องการสื่ออย่างเต็มที่
5 สิ่งที่ “ไม่ควรทำ” ในการทำ Presentation
1. ใส่ข้อความมากเกินไป
คนส่วนใหญ่ไม่ได้อ่านทุกคำในสไลด์ แถมข้อความที่มากเกินไปยังทำให้คนเข้าใจเนื้อหาได้ยากขึ้น ดังนั้น เราจึงควรใช้แค่ “ข้อความสรุป” หรือ “คำที่เป็นคีย์เวิร์ด” เท่านั้น
2. ใช้ Bullet Point เยอะเกินไป
Bullet point ที่มากเกินจะทำให้ทุกอย่างดูสำคัญเท่ากันไปหมด จนจับจุดที่สำคัญของข้อมูลไม่ได้ ดังนั้น เราควรแปลง Bullet point ให้เป็นรูปภาพหรือใช้ไอคอนเข้ามาช่วย
3. ใช้ค่าเริ่มต้นที่โปรแกรมให้มา
การใช้ Font เริ่มต้น (เช่น Calibri, Arial), สีพื้นหลังแบบสุ่ม หรือ Layout เดิมๆ จะทำให้ดูไม่ใส่ใจ ดังนั้น วิธีการที่ดีกว่า คือ การออกแบบใหม่ไม่ว่าจะเป็นพื้นหลัง รูปแบบ หรือสี จะทำให้สไลด์ดูน่าสนใจมากขึ้น
4. ใส่ทุกอย่างไว้ในหน้าเดียว
เนื้อหามากไปในสไลด์เดียว ไม่เพียงแต่อ่านยาก แต่ยังทำให้ผู้ชมไม่รู้ว่าจะโฟกัสตรงไหน ควรแยกหัวข้อใหญ่ๆ เป็นสไลด์ใหม่ เพื่อให้โฟกัสชัดเจน
5. ออกแบบสไลด์แบบมั่ว ๆ
Font หลายแบบ สีหลากหลายสลับไปมา หรือรูปภาพที่ไม่เข้าพวกกัน โดยไม่คำนึงถึงความเหมาะสมกับเนื้อหาที่นำเสนอ จะทำให้งานดูออกมาไม่ดี ดังนั้น เราเลือกธีมหลักให้ทั้งชุดสไลด์ เช่น โทนสี, Font, และสไตล์ของภาพ เพื่อให้สไลด์ดูกลมกลืนและเป็นแนวเดียวกัน
และนี่ก็คือทั้งหมดของเหตุผลว่า ทำไมการมี Presentation ที่ดี ถึงสำคัญกว่าที่หลายคนคิดที่เรานำมาแบ่งปันทุกคนกัน ซึ่งเนื้อหาทั้งหมดนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งจากคอร์ส Presentation Design Principles ของ Skooldio
สอนโดย คุณออย – ปรมัตถ์ หาญภิรมย์ เจ้าของเพจ Oil-PresentX
ที่ทำคอนเทนต์ให้ความรู้เกี่ยวกับการออกแบบ Presentation แบบมืออาชีพ ที่จะมาช่วยเสริมความมั่นใจในการออกแบบสไลด์ ให้น่าสนใจ และดึงดูดผู้ฟังมากขึ้น
ถ้าใครสนใจอยากเรียนรู้แบบเต็ม ๆ พร้อมแนวทางที่นำไปใช้ได้จริง
สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมของคอร์สได้ที่ Presentation Design Principles
