PM – Product Manager คือคนที่ต้องทำงานกับหลายๆทีม ทั้ง Business – Technology – Design ซึ่งแต่ละทีมทำงานต่างก็มีคำศัพท์ทางเทคนิคต่างๆที่ใช้ต่างกัน วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักความหมายของคำศัพท์ต่างๆที่ PM จะต้องเจอในการทำงาน เพื่อการสื่อสารในการทำงานที่ดีขึ้น 

Market Size – ความต้องการของลูกค้าที่มีอยู่มากน้อยเพียงใด คิดเป็นมูลค่าเท่าไหร่ จะทำให้เรารู้ว่า สิ่งที่เรากำลังจะทำนั้นมีความต้องการอยู่มากน้อยเพียงใด มีขอบเขตเท่าไหร่ คุ้มค่าแก่การลงทุนหรือไม่ มีโอกาสเติบโตมากน้อยเพียงใด

การประเมินขนาดตลาดด้วยแบบจำลอง TAM – SAM – SOM

TAM – Total Addressable Market
ลูกค้าทั้งหมดของสินค้า/บริการของเรา เช่น เราต้องการทำแอปสำหรับสั่งอาหาร ลูกค้าทั้งหมดของเราคือ คนที่มีสมาร์ทโฟนที่โหลดแอปของเราได้

SAM – Serviceable Available Market
ตลาดที่เราตั้งเป้าหมาย ถ้าหากไม่มีคู่แข่งเลย เราจะขายได้เท่านี้ ถ้าอธิบายให้เห็นภาพมากขึ้นคือ ตลาดที่เราขายโดยไม่มีคู่แข่ง ลูกค้า 100% ซื้อของเรา 

SOM – Serviceable Obtainable Market
ตลาดที่เราตั้งเป้าว่า ขายได้จริงๆ ตามความเป็นจริงที่มีคู่แข่งและตัวเลือกอื่นๆในตลาด

 

DAU – Daily Active Users
จำนวนผู้ใช้งานต่อวันแสดงให้เห็นถึงความนิยมหรือเทรนการเติบโตของเว็บไซต์/โปรแกรม/แอปพลิเคชั่นนั้นๆ

MAU – Monthly Active Users
จำนวนผู้ใช้งานต่อเดือนน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความนิยมหรือเทรนการเติบโตของเว็บไซต์/โปรแกรม/แอปพลิเคชั่นนั้นๆเช่นกัน

 

MVP – Minimum Viable Product
Product ที่มี ฟีเจอร์ในการให้บริการน้อยที่สุด “Product ที่พอใช้ได้” มีฟีเจอร์ต่างๆเท่าที่จำเป็น ตัดส่วนเกินออกไปให้มากที่สุด เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ได้ออกสู่ตลาดเร็วที่สุด

Steve Blank และ Eric Ries ให้คำนิยาม MVP ไว้ว่า

ฟีเจอร์อย่างน้อยที่สุดของ Product ที่คุณสามารถใช้มันประเมินตลาดได้

CTR – Click Through Rate
อัตราการคลิกเมื่อเทียบกับอัตราการแสดงผล ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเว็บไซต์ของคุณมีผู้เข้าชม 100 ครั้ง มีคนคลิกปุ่มสมัครบนเว็บนั้น 5 ครั้ง เท่ากับ CTR 5% มีไว้เพื่อวัดผลตอบรับของผู้ชมหลังจากเห็นหน้าเว็บนั้นของคุณ

Bounce rate
สัดส่วนของผู้ชมที่เข้าเว็บไซต์เพียงหน้าเดียวแล้วออกเลย โดยไม่ไปหน้าอื่นๆอีก

User Conversion Rate
อัตราส่วนของการเข้าชมเว็บไซต์ที่กลายเป็นการกระทำใดๆก็ตามที่สนใจ เช่น โอกาสในการขาย, การลงชื่อสมัคร, การกรอกแบบสอบถาม หรือการติดต่อเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม

Retention Rate
ใช้เพื่อแสดงอัตราการกลับมาใช้บริการซ้ำของลูกค้า ทำให้รู้ว่า มีลูกค้าเลิกใช้บริการของเราไปเท่าไหร่ และมีลูกค้าใหม่เท่าไหร่

Total Downloads/Total Visits
จำนวนยอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นหรือโปรแกรม / จำนวนการเข้าชมเว็บไซต์

Lean Startup
การสร้างธุรกิจโดยให้ความสำคัญกับคุณค่าที่ผู้ใช้จะได้รับ และตัดขั้นตอน/ส่วนที่ไม่สำคัญออกไป การสร้างผลิตภัณฑ์ในแบบของลีนสตาร์ทอัพนั้นจะเริ่มลูกค้าก่อนเพื่อลดเวลาและทุนในการออกแบบสิ่งที่ไม่จำเป็น เพื่อให้สามารถเข้าใจลูกค้าและทดสอบสมมติฐานได้เร็วที่สุด 

Lean Canvas
เครื่องมือที่เป็นตัวช่วยในการเขียนแผนธุรกิจแบบ Lean มุ่งเน้นไปที่การค้นหาปัญหาของลูกค้า(Pain point) และความต้องการที่แท้จริงของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการเข้าสู่ตลาดอย่างรวดเร็ว

Behavioral Product Management
การประยุกต์ความรู้ทางพฤติกรรมศาสตร์ (behavioral science) และ พฤติกรรมมนุษย์ (human psychology) มาใช้พัฒนาการออแบบผลิตภัณฑ์

Business Model canvas
เครื่องมือที่ช่วยในการออกแบบโมเดลธุรกิจ ช่วยให้เห็นภาพรวมของธุรกิจทั้งหมด ซึ่งสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์ วางแผน และ ประเมินความเสี่ยงต่างๆของธุรกิจได้ โดยประกอบไปด้วย 9 องค์ประกอบหลัก

https://www.strategyzer.com/canvas/business-model-canvas

Customer Journey Map
ขั้นตอนของลูกค้าที่มีปฏิสัมพันธ์กับบริษัทหรือแบรนด์ โดยบริษัทสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการพัฒนาและปรับปรุงสินค้าและบริการได้ในแต่ละ touchpoint

Customer Touchpoint
จุดสัมผัสของลูกค้าและแบรนด์ของเราในทุกๆกระบวนการ เช่น การติดต่อลูกค้า การบริการ การดูแลหลังการขาย

Customer Validation
การทดสอบสมมุติฐานเกี่ยวกับปัญหาของลูกค้า กลุ่มเป้าหมาย และผลิตภัณฑ์ ซึ่งนำการพิสูจน์นี้ไปพัฒนาปรับปรุงสินค้าให้ตอบโจทย์ลูกค้าและตลาดให้มากที่สุด

Cross-Functional Team
การทำงานเป็นกลุ่มโดยมีผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านจากหลากหลายฝ่าย

CAC – Customer Acquisition Cost
ค่าใช้จ่ายหรือต้นทุนของบริษัทเพื่อให้ได้ลูกค้าใหม่ 1 ราย เช่น ต้นทุนการตลาดและการขาย

Design Thinking
คือกระบวนการในการคิดวิเคราะห์ เพื่อเข้าใจปัญหาของลูกค้า รวมไปถึงการคิดแก้ไขปัญหาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานให้ตรงจุดมากที่สุด ประกอบไปด้วย 5 ขั้นตอนคือ Empathize Define, Ideate, Prototype และ Test
สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ https://www.skooldio.com/courses/design-thinking

Data Visualisation
การนำข้อมูลเชิงลึกต่างๆมาวิเคราะห์และทำเป็นแสดงเป็นรูปภาพ กราฟ แผนภูมิ หรือวิดีโอการนำเสนอ

Feature Kickoff
การประชุมรวม product manager และฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อที่จะวางแผน ตั้งเป้าหมายและ หน้าที่ในการทำงานของทีมในการเริ่มโปรเจกต์หรือฟีเจอร์ใหม่

Feature Outcome Assessment
เน้นผลลัพธ์ที่สามารถวัดได้และเฉพาะเจาะจง มากกว่าการเน้นที่ฟีเจอร์ของผลิตภัณฑ์

Gantt Chart
ตารางการวางแผนงาน การทำงานร่วมกัน การติดตามงาน ของโปรเจกต์ใดโปรเจกต์หนึ่ง

Go-to-Market Strategy
การวางแผนกลยุทธ์ในการปล่อยผลิตภัณฑ์สู่ตลาดให้ประสบความสำเร็จ เช่น การตั้งราคา กลยุทธ์การขาย การอบรบพนังงานขาย เป็นต้น

และทุกสัปดาห์จะมีการเพิ่มคำศัพท์ใหม่ๆ กด Bookmark / Save Link ไว้อ่านได้เลย!


 

Product Management Bootcamp
🚩 ใครสนใจอยากขยับเข้าสู่สายงาน Product Manager แต่ไม่รู้จะเริ่มเรียนที่ไหน มาเริ่มเรียนรู้ไปด้วยกันได้ที่ Product Management Bootcamp รุ่น 4 (เปิดรับสมัครแล้ววันนี้)

 

More in:Business

Comments are closed.