การฝึกอบรมพนักงานด้วย Online Training เป็นการลงทุนยอดฮิตมากที่หลายองค์กรเลือกใช้เพื่อยกระดับพนักงานของตัวเองให้เก่งขึ้น แต่หลายครั้ง องค์กรมักเจอกับปัญหาเรื่องพนักงานเรียนไม่จบ หรืออาจจะไม่เรียนเลย ซึ่งสาเหตุที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่า การอบรมในรูปแบบเดิม ๆ มันไม่ตอบโจทย์ทั้งกับพนักงานและ HR อีกต่อไปแล้วด้วยหลายเหตุผล ทั้งเนื้อหาที่ไม่สดใหม่และไม่เข้ากับบริบทในการทำงานปัจจุบัน หรือโมเดลที่เป็น Subscription แต่ไม่มีแรงจูงใจในการเรียน สุดท้าย Budget Training ที่องค์กรลงเงินไป ก็ละลายหายแบบไม่มี Return กลับมา
ทาง Skooldio เล็งเห็นถึงปัญหาในจุดนี้ จึงได้ทำ “มาเรียนธอน” ขึ้นมา ซึ่งเป็นแคมเปญที่ตั้งใจเปลี่ยนการจัดอบรมด้วยคอร์สออนไลน์ปกติ ให้เป็น Gamified Challenge ทำให้การซื้อคอร์สแบบเดิม ๆ กลายเป็นอีเวนต์ภายในองค์กรที่ส่งเสริมให้ทุกคนได้มีส่วนร่วม และสร้างแรงกระตุ้นสู่ผลลัพธ์ที่พนักงานเรียนจบจริงถึง 95%
Table of Contents
- แค่ซื้อคอร์สให้ ไม่เท่ากับ การพัฒนาทักษะพนักงาน
- มาเรียนธอนคืออะไร? ทำไมถึงทำให้พนักงานเรียนจบได้กว่า 95%?
- เปลี่ยนการ Training เดิมๆ เป็น Solution ที่ให้พนักงานเห็น Result ชัดตั้งแต่เริ่ม
- เราไม่ได้ช่วยแค่ผู้เรียน แต่เราช่วย HR ให้ทำงานง่าย
- SET : เคสจริงจากองค์กรชั้นนำ
- เคสจริงจากมหาวิทยาลัยมหิดล
- มาเปลี่ยน Training เดิมๆ กันเถอะ
แค่ซื้อคอร์สให้ ไม่เท่ากับ การพัฒนาทักษะพนักงาน
ถ้าพนักงานเรียนคอร์สไม่จบ หรือในกรณีที่เลวร้ายที่สุดคือไม่ได้เรียนเลย พนักงานงานก็ไม่ได้มีการพัฒนาตัวเองขึ้น องค์กรก็สูญเสียเงินไปแบบสูญเปล่า ในสถิติที่ผ่านมา การเรียนคอร์สออนไลน์จบของพนักงานมีอัตราเฉลี่ยอยู่ที่ 10% เท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมาก สาเหตุของปัญหานี้มีอยู่หลายข้อด้วยกัน
1. ไม่มีแรงจูงใจในการเรียน
โปรแกรมคอร์สเรียนทั่วไปที่องค์กรเลือกมา มักจะเป็นคอร์สเรียนที่ไม่สอดคล้องกับโลกการทำงานในปัจจุบัน ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนบริบทในทุก ๆ 6 เดือนด้วยความเจริญเติบโตอันรวดเร็วของเทคโนโลยี หลายความรู้ที่เคยรู้ อาจจะไม่ใช้ได้ไม่มีประสิทธิภาพมากแล้วในอีกหลายเดือนข้างหน้า เมื่อคอร์สที่เกี่ยวกับการทำงาน “ในปัจจุบัน” มันมีน้อย พนักงานก็ไม่มีแรงจูงใจที่จะเสียเวลาไปเรียนเพราะมันไม่สามารถนำไปต่อยอดอะไรให้กับงานที่พวกเขาทำได้
2. ขาดการมีส่วนร่วม
ต้นตอปัญหานี้เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยมาก ปัจจัยแรกก็คือมันไม่มีการติดตามความคืบหน้าของผู้เรียน จนทำให้ผู้เรียนขาดการตื่นตัวในการเรียนได้ อย่างที่สอง โปรแกรมการเรียนที่ออกแบบมาให้นั่งดูเฉย ๆ อยู่อย่างเดียว ไม่มีกิจกรรม ไม่มีภารกิจ หรือไม่มีแบบฝึกหัด มันทำให้ผู้เรียนขาดการมีส่วนร่วมไปในตัวอยู่แล้ว
3. น่าเบื่อ
ปัญหาในสองข้อก่อนหน้านี้เป็นต้นตอทำให้เกิดความน่าเบื่อของผู้เรียนขึ้นมา ซึ่ง “ความเบื่อ” เป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ผู้เรียนค่อย ๆ ห่างหายจากการเรียนไป จนสุดท้ายก็เลิกเรียนไปในที่สุด ถ้าโปรแกรมคอร์สเรียนไม่สามารถสร้างแรงจูงใจในการเรียน และทำให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมกับโปรแกรมที่เรียนไม่ได้ ทุกอย่างก็จะพังลงในที่สุด
ทั้งหมดนี้คือปัญหาที่เกิดขึ้นจากการเรียนคอร์ส Online Training แบบธรรมดาทั่วไป แต่ทุกปัญหานี้จะหมดไปได้ด้วยคอร์สเรียน “มาเรียนธอน” ที่มีเนื้อหาทันสมัย หลากหลาย และหยิบ Gamification มาเป็นหัวใจสำคัญ ทำให้อัตราการเรียนจบสูงถึง 95%
มาเรียนธอนคืออะไร? ทำไมถึงทำให้พนักงานเรียนจบได้กว่า 95%?

มาเรียนธอนคืออะไร?
ทาง Skooldio เห็นว่าการเรียนออนไลน์ปกติมันมีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้การเรียนจบคอร์สเป็นเรื่องที่ยากเย็นมาก พวกเราจึงได้สร้างแคมเปญ “มาเรียนธอน” ที่เปลี่ยนการอบรม Online Traning ปกติ ให้เป็น Gamified Challenge ขึ้น
ทุกเนื้อหามีการกำหนดเป้าหมายชัดเจนว่าเรียนจบแล้วจะได้อะไรกลับไป อีกทั้งยังมีการจำกัดวันและจำนวนคอร์สอย่างชัดเจน มีการออกแบบฟีเจอร์น่าสนใจต่าง ๆ ที่ช่วยสร้างแรงจูงใจในการเรียน พร้อมส่งเสริมให้พนักงานสามารถจดจ่ออยู่กับแคมเปญได้อย่างต่อเนื่องจนเรียนจบได้ตามเป้า พร้อมเรียนจบ 3 คอร์สแบบติดสปีดใน 42 วัน
เปลี่ยนการ Training เดิมๆ เป็น Solution ที่ให้พนักงานเห็น Result ชัดตั้งแต่เริ่ม
เนื้อหาครบถ้วนและหลากหลาย มีให้เลือกเรียนกว่า 100+ คอร์สออนไลน์

มีให้เลือกเรียนกว่า 100+ คอร์สออนไลน์
ความครบถ้วนและหลากหลายของเนื้อหา เป็นสิ่งที่จะช่วยรองรับความต้องการที่แตกต่างกันในพนักงานแต่ละคนได้ แคมเปญ “มาเรียนธอน” มีเนื้อหาพร้อมสำหรับการอัพสกิลที่จำเป็นกับโลกการทำงานอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง UX/UI, Data Analytics, Generative AI, Project Management, Marketing และอื่น ๆ อีกมากมาย พนักงานสามารถเลือกพัฒนาทักษะที่ตอบโจทย์ตัวเองได้จริง ที่สำคัญคือผู้สอนของเราก็เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับท็อปมากประสบการณ์ที่รู้ลึกรู้จริงในสายงานของตัวเอง พร้อมการันตีคุณภาพของเนื้อหา
Learning Path และ Pacer System ที่บูสต์แรงจูงใจในการเรียน

Learning Path จับคู่ 3 คอร์ส
มี Learning Path ที่ออกแบบลำดับของเนื้อหาหรือคอร์สต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับเป้าหมายการเรียนรู้ของผู้เรียน โดยเริ่มจากพื้นฐานไปสู่ระดับที่ซับซ้อนมากขึ้น และสำหรับใครที่สนใจอยากจะอัพสกิลที่สอดคล้องกับเรื่องเฉพาะทางบางอย่าง ผู้เรียนก็สามารถเลือก Learning Path ที่ทางเราได้จับคู่ 3 คอร์สให้ตรงกับสายงานต่าง ๆ ไว้ให้แล้ว ตัวอย่างเช่น ลุยแบบคนอยากเก่งทำ Data Visualization, ลุยแบบผู้นำองค์กรยุคดิจิทัล ปี 2025, ลุยแบบมนุษย์เซลล์ทีอยากเก่งใช้ Data หรือลุยแบบคนอยากเป็น Senior Developer เป็นต้น ผู้เรียนสามารถเลือกเส้นทางที่ตรงกับทักษะที่อยากพัฒนาได้เลย

Pacer Systerm – แนะนำแนวทางการเรียนผ่านผู้นำองค์กร
ฟีเจอร์ Pacer System ที่ให้ผู้นำในองค์กรมาเป็นหนึ่งใน Key Opinion Leader (KOL) จัด 3 คอร์สเรียนที่ผู้นำแต่ละคนเห็นว่าจำเป็นสำหรับสายอาชีพของพวกเขา ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นเหมือนการหยิบคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญมาเป็นหนึ่งในแนวทางการเลือกเรียนของพนักงานแต่ละคน ช่วยสร้างแรงจูงใจให้เกิดความตื่นตัวและความสนใจในการเรียนเพิ่มขึ้น
ติดตามความคืบหน้าการเรียนได้แบบ Real Time

Progress Tracking Dashboard
แคมเปญ “มาเรียนธอน” ของเรามี Dashboard หน้าตาสวยงาม ออกแบบให้มีลักษณะคล้ายกับการวิ่งมาราธอน โดยผู้เรียนจะติดตามข้อมูลการเรียนของตัวเองได้ว่า เรียนคอร์สอะไรไป เรียนไปทั้งหมดกี่ชั่วโมง และมีเวลาเหลือในการเรียนอีกเท่าไหร่ ที่สำคัญ ผู้เรียนจะเห็นความคืบหน้าของพนักงานคนอื่น ๆ ในองค์กรด้วยว่าเรียนไปถึงขั้นไหนแล้ว ซึ่งช่วยให้เกิดแรงจูงใจในการเดินหน้าเรียนได้อย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะได้ไม่ตามหลังคนอื่น
กระตุ้นให้เรียนอย่างสม่ำเสมอด้วย Internal Communication ที่เราออกแบบ

แจ้งเตือนทุกข้อมูลสำคัญผ่าน Email Notification
มีการติดตามพนักงานทุกคนอยู่ตลอดผ่านการแจ้งเตือนทางอีเมล (Email Notification) คอยให้ข้อมูลสำคัญหรืออัปเดตต่าง ๆ เกี่ยวกับ “มาเรียนธอน” เช่น แจ้งเตือนกำหนดการกับช่องทางเข้าเรียน ข้อความต้อนรับสู่ห้องเรียน ขั้นตอนการเลือกคอร์สเรียน ระยะเวลาที่เหลือของแคมเปญ และการแสดงความยินดีหลังเรียนจบ ทั้งหมดนี้จะช่วยให้พนักงานทุกคนตื่นตัวอยู่เสมอโดยไม่ลืมเรื่องคอร์สที่กำลังเรียนอยู่
เราไม่ได้ช่วยแค่ผู้เรียน แต่เราช่วย HR ให้ทำงานง่าย
แคมเปญ “มาเรียนธอน” สามารถเข้าเรียนได้ผ่านแพลตฟอร์มของทาง Skooldio เอง ซึ่งนั่นหมายความว่าทีม HR จากองค์กรของคุณสามารถอยู่เฉย ๆ โดยไม่ต้องทำอะไรเลย ทางแคมเปญมีการจัดการและติดต่อสื่อสารกับพนักงานโดยตรง ทั้งการแจ้งวิธีการเข้าเรียน การกระตุ้นพนักงาน การแจ้งวันที่เหลือ รวมไปที่ Report ข้อมูลการเรียนของพนักงานแต่ละคน พวกเราเป็นฝ่ายจัดการให้เองทั้งหมด ทาง HR สามารถรอรับ Data ไปใช้งานต่อได้เลยโดยไม่ต้องเสียแรง
SET : เคสจริงจากองค์กรชั้นนำ
SET (ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย) เป็นหนึ่งในองค์กรที่เลือกแคมเปญ “มาเรียนธอน” ของเรา โดย 98% ของพนักงานแผนก IT ของ SET ที่ลงเรียนแคมเปญนี้ สามารถเรียนจบได้ทั้งหมด 3 คอร์สครบถ้วนภายในระยะเวลาเพียงแค่ 42 วัน และพนักงานจำนวน 82 คนลงเรียนรวมกันเกือบทั้งหมด 250 คอร์ส การออกแบบโครงสร้างของแคมเปญ “มาเรียนธอน” ทำให้พนักงานจำนวนมากได้ยกระดับความสามารถและเรียนรู้สกิลใหม่ ๆ ที่จำเป็นกับโลกการทำงานในระยะที่รวดเร็วไม่ถึงสองเดือน ที่สำคัญคือเนื้อหาที่เรียนไปได้สร้างอิมแพค ช่วยให้พนักงานยกระดับความสามารถได้จริง เพิ่มพูนความรู้เดิมและนำไปต่อยอดปรับใช้กับการทำงานได้ทันที
อ้างอิงจากโพลแบบสำรวจหลังจบแคมเปญในช่วงต้นปีที่ผ่านมา เมื่อถามว่า “อยากให้องค์กรของคุณจัดกิจกรรมรูปแบบนี้ในระดับใด?” พนักงาน 97% ของ SET ให้คะแนนอยู่ที่ 4-5 คะแนนเต็ม ต้องการให้องค์กรอยากจัดกิจกรรมรูปแบบนี้อีกเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ คำตอบของพนักงานในโพลแบบสำรวจอีกอันก็ได้ชี้ให้เห็นถึงปัจจัยสำคัญที่ทำให้พวกเขาชอบแคมเปญ “มาเรียนธอน”
- มีกำหนดการสิ้นสุดตายตัว การมีเดดไลน์ 42 วัน เป็นกรอบช่วยกระตุ้นให้ผู้เรียนไม่อยากผัดวันประกันพรุ่ง
- ความหลากหลายและอิสระในการเลือกเรียน มีคอร์สยกระดับทักษะให้เลือกเรียนมากมาย และผู้เรียนมีสิทธิ์ในการเลือกเรียนเองแบบ 100% เลย จะจัด 3 คอร์สเอง หรือจะเลือกแพ็ค 3 คอร์สที่อาจารย์ของเราแต่ละคนแนะนำสำหรับการอัพสกิลเฉพาะทางด้านนั้น ๆ ก็ได้
- มีการติดตามความคืบหน้า ข้อมูลความคืบหน้าในหน้า Dashboard ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้เรียนอยากจะเอาชนะและเรียนต่อให้จบ
พนักงานหลายคนได้ตอบว่า อิมแพคจากการเข้าร่วม “มาเรียนธอน” ก็คือ
- ปรับใช้กับงานได้ทันที
- หยุดดองคอร์สได้
- คุ้มค่ากับเวลาที่ลงเรียนไป
เคสจริงจากมหาวิทยาลัยมหิดล
อีกกลุ่มคนที่เคยร่วมแคมเปญ “มาเรียนธอน” กับเราคือ อาจารย์หมอต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเคสตัวอย่างนี้มันน่าสนใจตรงที่พวกเขาคือองค์กรที่มี Persona ไม่คาดคิดมาก เวลาที่เราพูดถึงทักษะด้านเทคโนโลยี เราจะไม่ได้นึกถึงหมอเลย แต่แคมเปญเรามีคอร์สยกระดับทักษะที่หลากหลายพอและเชื่อมโยงกับทุกสายอาชีพจนสามารถตอบโจทย์ทุกองค์กรที่อยากจะ Work Smart ได้ ไม่เว้นแม้กระทั่งหมอในโรงพยาบาล
Learning Path ที่อาจารย์หมอเลือกเรียนก็มีทั้ง Presentation Design Principle, Cybersecurity Awareness, Data Visualization, Data Science, Data Analytic ไปจนถึงพื้นฐานการเขียนโปรแกรม
ค่าเฉลี่ยของอาจารย์หมอที่เรียนจบ 3 คอร์สก็มีสูงถึง 95% และองค์ความรู้ต่างๆที่ได้เรียนในแคมเปญนี้ก็สามารถนำไปต่อยอดกับงานพวกเขาได้ทันทีหลังเรียนจบ กรณีศึกษานี้ชี้ให้เห็นเลยว่า “มาเรียนธอน” มีเนื้อหาที่ตอบโจทย์คนทำงานทุกกลุ่มอย่างแท้จริง อีกทั้งการใช้ Gamiefied Challenge ของแคมเปญก็ยังช่วยผลักดันให้พนักงานสามารถเรียนจบได้ภายในเวลา 42 วัน
มาเปลี่ยน Training เดิมๆ กันเถอะ
ถ้าอยากให้เม็ดเงินที่ลงไปกับ Online Training เกิดผลลัพธ์ที่ช่วยยกระดับคนในองค์กรได้จริง เราก็ต้องเลือกแคมเปญคอร์สออนไลน์ที่สร้างแรงจูงใจให้พนักงานเรียนจบ และได้ทักษะที่เข้ากับบริบทการทำงานในโลกปัจจุบันได้ทันที แคมเปญ “มาเรียนธอน” คือคำตอบสำหรับองค์กรคุณ กรอกฟอร์มเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลย!