AI เป็นโครงสร้างพื้นฐานทางความคิด และเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ที่เปลี่ยนวิธีที่องค์กรดำเนินธุรกิจตั้งแต่รากฐานไปจนถึงการยกระดับประสิทธิภาพโดยรวมทั้งหมดขององค์กร และยังเป็นตัวเร่งการเปลี่ยนแปลงของวัฒนธรรมองค์กร เพราะมันบังคับให้ธุรกิจเลิกยึดติดกับการทำงานแบบที่พึ่งพาประสบการณ์ของผู้บริหาร แต่ต้องปรับตัวสู่การใช้ข้อมูลเป็นศูนย์กลาง (data-driven) และการตัดสินใจที่อิงกับหลักฐาน (evidence-based) 

แต่ถึงแม้ AI จะเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่การหยิบเครื่องมือนี้มาใช้อย่างเดียวไม่ได้ช่วยสร้างความได้เปรียบโดยแท้จริงอย่างยั่งยืนให้กับธุรกิจเราอย่างที่หลายคนเข้าใจ บทความนี้จะพาทุกคนหาคำตอบว่า ทำไมการใช้ AI ถึงไม่เพียงพอต่อการทำธุรกิจ แล้วอะไรคือกุญแจสำคัญที่ทำให้เราสามารถโดดเด่นได้จริงในโลกที่เครื่องมือนี้เข้ามา disrupt ทุกอย่าง

AI คือคลื่นความเปลี่ยนแปลงที่ “ทุกคน” วิ่งตาม

ไม่ว่าคุณจะอยู่ในอุตสาหกรรมการเงิน การผลิต ค้าปลีก สาธารณสุข หรือเทคโนโลยี ทุกที่ล้วนกำลังทดลองหรือประกาศ AI Projects กันอย่างคึกคัก โดยคาดหวังถึงความเร็วที่เพิ่มขึ้น ต้นทุนที่ลดลง และประสบการณ์ลูกค้าที่ดีขึ้น เราไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าเครื่องมือนี้มันเข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับทุกภาคส่วนโดยแท้จริง สิ่งนี้คือเทคโนโลยีที่ทรงพลังมาก แต่ท่ามกลางความตื่นเต้นนี้ หลายคนมองข้ามไปว่าสุดท้ายแล้ว AI ก็จะกลายเป็นเครื่องมือที่ทุกองค์กรใช้กัน มันจะไม่ใช่ของที่มีแค่ที่ใดที่หนึ่ง แต่จะกระจายไปอยู่ทุกที่ไม่ว่าจะในอุตสาหกรรมไหน ทุกองค์กรสามารถเข้าถึง AI ได้แล้ว

การใช้ AI ไม่ใช่ข้อได้เปรียบ แต่คือบรรทัดฐานใหม่

ในช่วงแรกของเทคโนโลยีใหม่ ๆ ผู้เล่นรายแรกย่อมได้เปรียบจากความแปลกใหม่และความเร็ว แต่เมื่อเครื่องมือและความรู้ถูกทำให้เข้าถึงง่ายขึ้น ความได้เปรียบเชิงเทคโนโลยีเพียว ๆ จะค่อย ๆ กลายเป็นเพียง “บัตรผ่านประตู” ที่ต้องมีตั้งแต่แรกเพื่อเข้าการแข่งขัน หากทุกคนต่างก็นำชุดเครื่องมือคล้าย ๆ กันมาใช้ ผลลัพธ์ก็ย่อมมีแนวโน้มที่จะคล้ายกัน เว้นแต่จะมี “องค์ประกอบอื่น” ที่ทับซ้อนลงไปบนเครื่องมือเดียวกันนั้นเพื่อสร้างความต่างที่ตามไม่ทันง่าย ๆ

ปัจจัยที่ทำให้ AI ไม่ใช่ข้อได้เปรียบระยะยาว

เมื่อเทคโนโลยีบางอย่างเริ่มจะสามารถเข้าถึงคนเป็นวงกว้าง ผู้ให้บริการ AI รายใหญ่เปิดให้ใช้งานผ่าน API และแพลตฟอร์มแบบสมัครสมาชิกในราคาที่องค์กรส่วนใหญ่รับได้ ความสามารถที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเรื่องเฉพาะขององค์กรขนาดใหญ่ วันนี้กลายเป็นความสามารถมาตรฐานที่องค์กรทุกระดับก็สามารถใช้ได้ เมื่อสิ่งที่เคยยากกลายเป็นของสามัญ ความได้เปรียบจึงลดลงอย่างรวดเร็วจนมันไม่ใช่ข้อได้เปรียบอีกต่อไป

เหตุผลต่อมาคือความเสี่ยงจากการพึ่งพาผู้ขายภายนอกเพียงไม่กี่ราย ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงด้านราคา เงื่อนไขการใช้งาน ข้อกำหนดการปกป้องข้อมูล หรือการจำกัดการเข้าถึงความสามารถบางอย่าง ล้วนส่งผลโดยตรงต่อความต่อเนื่องของแนวทางการแก้ปัญหาและการทำงานขององค์กร หากความสามารถหลักของธุรกิจคุณ “เท่ากับ” ความสามารถของแพลตฟอร์มที่ใคร ๆ ก็ซื้อได้อยู่แล้ว ความได้เปรียบก็จะอ่อนไหวต่อปัจจัยนอกองค์กรอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“เริ่มก่อน” ไม่ทรงพลังเท่ากับการ “เริ่มอย่างเป็นระบบ”

ศาสตราจารย์ Jay Barney จาก University of Utah’s Eccles School of Business ได้แสดงความเห็นไว้ในพอดแคสต์ของ Harvard Business Review อย่างน่าสนใจไว้ว่า คนที่เริ่มก่อนมักได้เปรียบเสมอ แต่ความตลกร้ายอย่างหนึ่งในกรณีของ AI ก็คือเมื่อใดที่มีคนใช้ Gen AI ทำอะไรบางอย่าง ตัว AI ก็จะยิ่งฉลาดหลักแหลมมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นแล้วในแง่หนึ่ง คนที่เริ่มใช้ทีหลังก็จะไม่ได้เจอแค่ข้อมูลทั่วไปในระบบ แต่จะเจอกับข้อมูลที่คนอื่น ๆ ทั่วโลกเพิ่มเข้ามาใน Datasets จน AI ทรงพลังขึ้นด้วย ซึ่งมันเก่งขึ้นอย่างรวดเร็วในเพียงหลักเดือน

แต่การพูดแบบนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกองค์กรไม่จำเป็นจะต้องกระตือรือร้นในการเริ่มหยิบ AI มาใช้ เขาเน้นย้ำว่าการเริ่มเร็วมันเกิดผลดีที่สุด แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ต้องการชี้ให้เห็นด้วยว่าการเริ่มเร็วไม่ได้เป็นจุดตัดที่ทำให้เราได้เปรียบคนอื่นอย่างก้าวกระโดด เพราะสุดท้ายแล้วเราต้องดูด้วยว่าองค์กรมีการหยิบ AI มาผูกโยงกับการทำงานในแต่ละทีมได้อย่างมีประสิทธิภาพจนมี AI เป็นศูนย์กลางขององค์กรได้หรือเปล่า ซึ่งสิ่งนี้ต่างหากคือหัวใจสำคัญที่จะสร้างความได้เปรียบให้องค์กรเราเฉิดฉายในโลกธุรกิจแห่งอนาคต

อะไรคือสิ่งที่จะสร้างความได้เปรียบ “เหนือกว่าแค่การใช้ AI”

ปัจจัยที่ทำให้ AI กลายเป็นข้อได้เปรียบเชิงกลยุทธ์คือ “คน” และ “บริบทขององค์กร” เพราะเครื่องมือ AI แบบเดียวกันสามารถสร้างผลลัพธ์ที่แตกต่างได้อย่างสิ้นเชิงขึ้นอยู่กับความเข้าใจ และการตีความของทีมงานที่ใช้ หากองค์กรมีบุคลากรที่ไม่เพียงแต่ใช้ AI ได้ แต่ยังรู้จักตั้งคำถามที่ถูกต้อง วิเคราะห์ผลลัพธ์อย่างมีวิจารณญาณ และผสานข้อมูลกับความรู้เชิงลึกในอุตสาหกรรมของตน AI จะกลายเป็นพลังเสริมที่ขับเคลื่อนการตัดสินใจและนวัตกรรมได้ดีกว่าการใช้เพียงผิวเผิน ยิ่งไปกว่านั้น การสร้างวัฒนธรรมที่กล้าเปิดรับการทดลอง ล้มเหลว และเรียนรู้จะทำให้ AI ไม่ถูกใช้แค่เพื่อทำงานแทนมนุษย์ แต่เพื่อสร้างวิธีคิดใหม่ โมเดลธุรกิจใหม่ และประสบการณ์ลูกค้าที่แตกต่างอย่างแท้จริง

ดังนั้น ความได้เปรียบเหนือกว่าแค่การใช้ AI คือการสร้างความสามารถเฉพาะตัวขององค์กรที่ผสาน AI เข้ากับจุดแข็งที่ไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นตัวโปรดักต์ขององค์กร ฐานข้อมูลที่มีคุณภาพสูง ความรู้เชิงลึกของอุตสาหกรรม วัฒนธรรมองค์กรที่ยืดหยุ่น และความสามารถของบุคลากรในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ เมื่อองค์ประกอบเหล่านี้ทำงานร่วมกับ AI องค์กรจะไม่เพียงแค่การใช้เครื่องมือตามกระแสโลก แต่จะสามารถใช้ AI เป็นรากฐานของความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ที่ยั่งยืน และก้าวนำหน้าคู่แข่งในสนามธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

การเริ่มต้น AI Transformation อย่างถูกต้อง คือกุญแจสู่ความสำเร็จในระยะยาว

เพราะการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้งาน AI ไม่ได้เป็นเพียงแค่การนำเครื่องมือใหม่เข้ามาเสริมการทำงาน แต่คือการปรับโครงสร้างความคิด กลยุทธ์ และวัฒนธรรมของทั้งองค์กร หากจุดเริ่มต้นผิดพลาด ไม่ว่าจะด้วยการมอง AI เป็นเพียงของเครื่องมือชั่วคราว การขาดวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน หรือการลงทุนที่ไม่เชื่อมโยงกับกลยุทธ์หลักของธุรกิจ ผลลัพธ์ก็จะกลายเป็นโครงการที่ไม่ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดี สิ้นเปลืองทรัพยากร และไม่สามารถสร้างคุณค่าเชิงกลยุทธ์ได้จริง ตรงกันข้าม หากองค์กรวางรากฐานอย่างรอบคอบตั้งแต่ต้น โดยเริ่มจากการทำความเข้าใจว่าธุรกิจมีเป้าหมายอะไร? ปัญหาใดที่ควรแก้ด้วย AI ข้อมูลที่มีพร้อมหรือยัง? และบุคลากรพร้อมที่จะเรียนรู้และปรับตัวหรือไม่? กระบวนการ Transformation ก็จะมีทิศทางที่มั่นคงและยั่งยืน

Generative AI Mastery for Executive

หลักสูตร Generative AI สำหรับผู้บริหารที่ “ครบ” และ “จบในที่เดียว” พาคุณเข้าใจตั้งแต่พื้นฐานและเบื้องหลังการทำงานของ AI มองเห็น Use Cases จริง จากทั้งองค์กรในไทยและต่างประเทศ ตลอดจนเรียนรู้ความเสี่ยงที่ต้องพิจารณาก่อนเริ่มต้น AI Transformation ขององค์กร นอกจากนี้ยังได้ลงมือทำจริง เพื่อนำความรู้ไปต่อยอด ใช้คุยและวางแผนร่วมกับทีมในองค์กรได้อย่างมั่นใจ ผ่าน 3 แกนสำคัญที่ออกแบบมาเพื่อผู้บริหารโดยเฉพาะ เตรียมความพร้อมการยกระดับองค์กรได้ในเวิร์กชอป Generative AI Mastery for Executive

AI Enablement Partner

AI Enablement Partner | Skooldio

หากคุณรู้ตัวว่า AI นั้นสำคัญ และต้องการที่จะเรียนรู้แนวทางที่จับต้องได้ในการนำเครื่องมือนี้มาประยุกต์ใช้กับองค์กรได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ทาง Skooldio พร้อมเป็นพันธมิตรที่เดินเคียงข้างองค์กรของคุณในเส้นทางการทรานส์ฟอร์ม

เราพร้อมร่วมออกแบบโปรแกรมการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์เป้าหมายทางธุรกิจได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ ด้วยความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบประสบการณ์การเรียนรู้สำหรับผู้บริหาร เราเริ่มจากการทำความเข้าใจบริบท ความท้าทาย และเป้าหมายของผู้นำแต่ละคนอย่างลึกซึ้ง ก่อนจะพัฒนาเส้นทางการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับความต้องการเฉพาะของธุรกิจคุณ

Skooldio ทำงานร่วมกับองค์กรชั้นนำมากมายในการสร้างโปรแกรมฝึกอบรมด้าน AI ที่ไม่เพียงช่วยให้ผู้นำเข้าใจเทคโนโลยี แต่ยังสามารถนำไปใช้ขับเคลื่อนการตัดสินใจ นำการเปลี่ยนแปลง และสร้างคุณค่าจาก AI ได้จริงในโลกธุรกิจ

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราได้ฟรี เพื่อเริ่มต้นออกแบบโปรแกรมสำหรับทีมของคุณ ติดต่อได้ที่ sales@skooldio.com หรือศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม 


Sources

Why AI Will Not Provide Sustainable Competitive Advantage | MIT SMR

Why AI Isn’t Enough To Beat The Competition | Harvard Business Review

Why AI fails without streamlined processes – and 3 ways to unlock real value | World Economic Forum

More in:AI

Comments are closed.