เสียเงินค่าบรอดแคสต์แล้วโดนบล็อก ลูกค้าไม่กดซื้อ ? Click rate กับ Open rate น้อย
Table of Contents
Narrowcast คืออะไร ?
หลาย ๆ คนอาจคุ้นเคยกับคำว่าบรอดแคสต์ หรือการส่งข้อความไปหาสมาชิกจำนวนมากในเวลาเดียวกัน โดยธุรกิจส่วนใหญ่จะใช้เพื่อส่งโปรโมชันหรือแจ้งข่าวสารกับลูกค้า 💌🎉 แต่รู้หรือไม่ว่าข้อดีตรงนี้ก็สามารถกลายเป็นข้อเสียได้ คือการบรอดแคสต์นั้นส่งไปหา “ทุกคน” จนเกินไป
หมายความว่าไม่ว่าคน ๆ นั้นจะเป็นกลุ่มเป้าหมายของสินค้านี้หรือไม่ ก็ได้จะรับข้อความแบบเดียวกันกับคนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายที่สนใจสินค้าจริง ๆ เราก็จะเสียเงินบรอดแคสต์ไปฟรี ๆ (โดยเฉพาะตอนนี้ที่ LINE OA ปรับลดจำนวนบรอดแคสต์ในแพ็คเกจฟรีและเพิ่มราคาในแพ็คเกจเบสิค แปลว่าเราต้องบรอดแคสต์ 1 ครั้งให้คุ้มกว่าเดิม)
แล้วจะทำยังไงให้สิ่งที่เราบรอดแคสต์ส่งไปยังกลุ่มเป้าหมายที่สนใจจริง ๆ ✨ขอแนะนำ Narrowcast✨
Narrowcast คือการส่งข้อความหาคนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายและสนใจสินค้าเราจริง ๆ โดยเราสามารถนำเสนอ Exclusive Promotion คอนเทนต์ที่พิเศษเฉพาะกลุ่ม หรือ การให้สิทธิพิเศษเฉพาะคน ๆ นั้นจริง ๆ 👨👩👧👦
ข้อดีของ Narrowcast
- เพิ่มโอกาสในการกดซื้อ (Conversion Rate) เพราะเราบรอดแคสต์ไปตรงกลุ่มเป้าหมาย ✅
- เพิ่มการ Engage ของ Customer มากขึ้น (เพิ่มโอกาสให้ลูกค้ากดเข้าไปหน้าสั่งซื้อ หรือสอบถามเพิ่มเติม) ✅
- เพิ่ม Value ให้ลูกค้ารู้สึกว่าเขาพิเศษกับแบรนด์ ✅
- ลดโอกาสในการโดน Block เวลาเราส่งข้อความเยอะเกินไป ✅
- สามารถทำ A/B Testing เพื่อเก็บ Data ว่าลูกค้ากลุ่มไหนสนใจสินค้าตัวนี้มากกว่า (ไว้เทสความสนใจก่อนปล่อยสินค้าใหม่ก็ได้นะ) ✅
แล้วทำอย่างไรได้บ้าง ไปดูกัน!
4 วิธีบรอดแคสต์ LINE OA แบบ Narrowcast
ติ
1. ติด Chat Tag 💬
หากใครยังไม่รู้เราสามารถติด Tag ให้กับลูกค้าได้ง่าย ๆ โดยเวลาคุยกับลูกค้าให้ติด Tag ไว้ตรงด้านขวาของ Chat (เช่นติด Tag ว่า UX/UI Bootcamp, Data, Tech หรือลูกค้าองค์กร) พอติดเสร็จ คราวนี้ก็บรอดแคสต์ได้อย่างเฉพาะกลุ่มที่ติด Tag นั้นไว้แล้ว โดยมีข้อควรระวังคือไม่ควรมี Tag เยอะเกินไป และควรตกลงกับทีมให้ดีว่าจะใช้ Tag ไหน (อย่าลืมว่าเราควรติด Tag สม่ำเสมอเพื่อรวบรวมฐานลูกค้าที่สนใจเรื่องนั้นอยู่จริง ๆ)
2. ช่องทางการเพิ่มเพื่อน (Friend Path) 👫
รู้หรือไม่ว่าเราสามารถแบ่งกลุ่มลูกค้าที่เพิ่มเพื่อนเราได้ง่าย ๆ ด้วยฟีเจอร์ Friend Path เช่น ลูกค้าที่เพิ่มเพื่อนเราจาก FaceBook, ลูกค้าที่สแกน QR Code ตอนเราไปออกบูธในห้าง หรือ ลูกค้าที่เพิ่มเพื่อนจาก Tiktok ฯลฯ เมื่อรู้ว่าเขามาจากทางไหน เราก็คงพอรู้แล้วว่าเขามีความสนใจประมาณไหน ทีนี้ก็บรอดแคสต์ไปหาเขาได้แบบโดนใจแล้ว 💗
3. คุณสมบัติเพิ่มเติม 📝
ข้อนี้ง่ายสุด ๆ แถมเหมาะกับธุรกิจที่มีสินค้าหลากหลาย เพราะใช่ว่าทุกสินค้าจะตอบโจทย์การใช้งานทุกคน (เราคงไม่อยากบรอดแคสต์ของใช้ผู้หญิง ๆ ให้กลุ่มลูกค้าผู้ชายที่มีโอกาสสนใจน้อยกว่าใช่ไหมล่ะ🫣) ให้ตอนบรอดแคสต์เรากดที่คุณสมบัติเพิ่มเติม แล้วเลือกเพียงกลุ่มเป้าหมายที่เราจะส่งไป ไม่ว่าจะเป็น ระยะเวลาที่เพิ่มเพื่อน เพศ อายุ OS พื้นที่ กำหนดได้หมด!
4. Messaging API 🤖
เคยไหมเวลาได้รับบรอดแคสต์ว่า “สมัครบัตร ABC กับเราวันนี้รับฟรี! เครดิตเงินคืน 200บาท” แล้วเกิดสงสัยว่าเขารู้ได้ไงว่าเราไม่ได้สมัคร! 😵💫เพราะเขาใช้สิ่งที่เรียกว่า Messaging API 💪🏻
Messaging API คือตัวกลางเชื่อมต่อระหว่าง ChatBot ในห้องแชทของ LINE OA เข้ากับ Server ซึ่งทำให้สามารถโต้ตอบลูกค้าได้ทันที ไม่ต้องมี admin คอยตอบคำถาม อีกทั้งยังสามารถดึงข้อมูลสินค้าจาก API หรือ Database มาคุยกับลูกค้าได้ เหมาะมาก ๆ สำหรับธุรกิจขนาดกลาง-ใหญ่ที่ต้องใช้ความละเอียดยิบย่อยสูงเช่นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเงิน เพราะสามารถแบ่งกลุ่มลูกค้าเป็นหลายประเภท แล้วเก็บข้อมูลได้ลึกสุด ๆ เป็น UID (Unique Identifier)
หรือถ้าอยากรู้ลึกกว่าเดิมทั้งวิธีบรอดแคสต์ให้โดนใจลูกค้า และการใช้ Messaging API เพื่อบรอดแคสต์หาลูกค้าแบบเฉพาะกลุ่มสุด ๆ ขอแนะนำ Data-Driven Marketing with LINE OA คอร์สออนไลน์ที่จะพาคุณรู้ใจลูกค้าแถมยอดขายปังขึ้น เพียงคุณขายสินค้าและเก็บ Data เองในที่เดียวกันด้วย LINE OA✨😍