แพทยศาสตร์ ยังคงเป็นหนึ่งในสายการเรียนยอดฮิตในหมู่นักเรียนสายวิทย์ในปัจจุบัน ถึงแม้ว่าเทคโนโลยี จะมาสร้างความเปลี่ยนแปลงในโลกนี้อย่างมากมาย แต่อาชีพหมอ ก็ยังเป็นอาชีพที่ขาดไม่ได้ และเป็นอาชีพที่หลายๆ คนหมายปอง
เมื่อเห็นคำว่า “โปรแกรมเมอร์” หรือการ “เขียนโค้ด” น้องๆ หลายคน คงนึกถึงการเป็นวิศวกร หรือคนที่เรียน วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ เท่านั้น แต่จริงๆ แล้ว ในตอนนี้ มีอีกหลากหลายอาชีพ ที่สามารถใช้การเขียนโปรแกรม เข้าไปช่วยให้ทำงานได้ดีขึ้น เร็วขึ้น และเข้าใจเทคโนโลยีได้มากขึ้นอีกด้วย เช่น นักการตลาด นักบัญชี บริหาร กราฟฟิกดีไซน์เนอร์
แน่นอนว่า น้องๆ คงคิดว่า แค่เรียนหมอ ก็หนักจะแย่อยู่แล้ว ยังจะให้เขียนโปรแกรมเป็นอีกหรอ แต่สกิลการเขียนโปรแกรม สามารถฝึกเองได้ เรียนเองได้ ในเวลาที่ตัวเองต้องการ เชื่อเถอะว่า สกิลนี้จะช่วยเราได้อีกหลายอย่างเลยทีเดียว
อยากเริ่มเขียนโปรแกรม แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง ลองอ่าน Blog นี้เลย
3 ข้อดีว่าทำไมคนเป็นหมอ ถึงควรเขียนโค้ดเป็นนั้นก็คือ
- Healthtech กำลังมา เราจะเป็นหมอที่เข้าใจและรู้ทันเทคโนโลยีมากขึ้น
- ช่วยในการทำ Research ได้ดียิ่งขึ้น
- ต่อยอดความสนใจของเรา เรียนแพทยศาสตร์ ไม่จำเป็นต้องเป็นหมอตลอดไป
ยังงงๆ ใช่มั้ย? งั้นมาดูกันดีกว่า ว่าแต่ละข้อ หมายความว่ายังไงกันบ้าง
Healthtech กำลังมา เราจะเป็นหมอที่เข้าใจและรู้ทันเทคโนโลยีมากขึ้น
ถ้าติดตามข่าวสารด้านเทคโนโลยีอยู่บ่อยๆ จะได้ยินคำว่า Digital Disruption เยอะมากๆ นั่นก็เพราะเทคโนโลยี กำลังมาแทนที่สินค้าและบริการหลายๆ อย่าง ที่เรามีอยู่ในปัจจุบัน อาชีพหมอ ก็ใช่ว่าจะรอด เทรนด์ที่มาแรงในเรื่อง Healthtech อย่างเช่น Telemedicine, Virtual Care, IoT และ AI กำลังเข้ามา Disrupt วิธีการทำงานแบบเดิมๆ ของวิทยาการทางการแพทย์ต่างๆ โดยมีองค์กรใหญ่ๆ และบริษัท Startup มากมาย กำลังเริ่มพัฒนาเทคโนโลยีทางด้านการแพทย์นี้ แม้แต่ Alphabet (บริษัทแม่ของ Google) ก็ยังสร้างบริษัทชื่อ Verily ขึ้นมาวิจัยเทคโนโลยีด้าน Healthtech โดยเฉพาะ
การที่เราเข้าใจวิธีการเขียนโค้ด หรืออ่านข้อมูลส่วน Tech แล้วเข้าใจมากขึ้น จะทำให้เราสามารถรู้ทันเทคโนโลยีเหล่านี้ และสามารถช่วยโรงพยาบาลเลือกสิ่งที่เหมาะสมได้ดีกว่าหมอที่ไม่เข้าใจเทคโนโลยีเลย
ช่วยในการทำ Research ได้ดียิ่งขึ้น
แม้จะไม่ใช่เรื่องที่คนพูดถึงนัก แต่อาชีพหมอ เป็นอีกอาชีพที่ต้องอยู่กับข้อมูลจำนวนมหาศาล ทั้งการทำ Research ดูข้อมูลคนไข้ เรียนรู้เกี่ยวกับโรคต่างๆ ผ่านข้อมูลของคนไข้ที่มีอาการคล้ายคลึงกันมาก่อน (Evidence Based Medicine) หรือการทำ AI Models มาวินิจฉัยโรคจากประวัติคนไข้ โดยการใช้ข้อมูลสัญญาณชีพต่างๆ หรือภาพถ่ายทางการแพทย์ และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งการจัดการกับข้อมูลจำนวนมากนี้ จะให้นั่งเปิด จด บันทึกเองก็จะใช้เวลานานมากๆ หมอหลายๆ ท่าน จึงหันมาหาวิธีการดึงข้อมูลอย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ อย่างการเขียน Python หรือ R ซึ่งเป็นภาษาที่คนนิยมเรียนเป็นภาษาเริ่มต้นของการเขียนโปรแกรมอยู่แล้ว หมอที่สามารถเขียนโค้ดได้ จึงสามารถนำข้อมูลมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าหมอที่ไม่รู้วิธีจัดการกับข้อมูล
ภาษา Python ยังสามารถนำมาใช้ในการดึงข้อมูลจำนวนมากจากเว็บ เพื่อนำไปวิเคราะห์ต่อได้อีกด้วย ซึ่งทักษะนี้ หากเราเริ่มเรียนตั้งแต่มัธยม ก็จะสามารถนำไปใช้ได้ตั้งแต่ตอนเรียนมหาวิทยาลัยเลยทีเดียว
อยากเริ่มเรียนโปรแกรมมิ่งด้วยภาษา Python ลองดูที่นี่เลย
ต่อยอดความสนใจของเรา เรียนแพทยศาสตร์ ไม่จำเป็นต้องเป็นหมอตลอดไป
อย่างที่เห็นกันในข้อ 1 Healthtech กำลังเป็นเทคโนโลยีที่มาแรงมากๆ หากเราเป็นคนที่ชอบด้านการแพทย์ แต่ก็มีใจรักในการทำธุรกิจของตัวเอง หรือการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ในขณะนี้ องค์กรที่ทำ Healthtech ใหญ่ๆ หลายองค์กร มีบุคลากรด้าน Tech มากมาย แต่ขาด Expertise จากฝั่งแพทย์ที่รู้จริง ใช้จริง มีประสบการณ์จริง ที่สามารถสื่อสารได้กับทั้งฝั่งของหมอและฝั่งของโปรแกรมเมอร์ หากเราเป็นตัวเชื่อมนี้ได้ แน่นอนว่า จะเป็นหมอที่เนื้อหอมมากๆ ในวงการเทคโนโลยีเลยทีเดียว
นอกจากนี้ เรายังได้เห็นหมอหลายท่าน ที่ผันตัวมาเป็นนักธุรกิจ เปิดบริษัทของตัวเอง โดยรวมเทคโนโลยี เข้ากับการแพทย์ที่ตนถนัด แล้วสร้างเป็น Startup ของตัวเองขึ้นมา เช่น
- นพ.คณพล ภูมิรัตนประพิณ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Health at Home
- ทพญ.กัญจน์ภัสสร สุริยาแสงเพ็ชร์ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Ooca
- นพ.อนุชา พาน้อย ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Doctor A-Z
ไม่ว่าน้องๆ จะเลือกเดินทางสายไหน หรือเข้าคณะอะไร ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าเทคโนโลยีกำลังคืบคลานเข้าสู่การทำงานของทุกๆ อาชีพ ความรู้ด้านโปรแกรมมิ่ง เป็นสกิลที่จะช่วยเตรียมเราให้พร้อม กับยุค Digital Disruption นี้ หากยังไม่แน่ใจ ว่าอยากเริ่มเขียนโปรแกรมอย่างไร ลองหาแรงบันดาลใจจาก Blog นี้เลย
สุดท้ายนี้ อยากเปิดวาร์ปให้น้องๆได้ไปอ่านแรงบันดาลใจ และความรู้เจ๋งๆ จากคุณหมอนักโค้ด ด้านล่างนี้เลย
Doctors who code – คุณหมอสาย Tech ที่น่าติดตาม
นพ.รัฐ ปัญโญวัฒน์ https://rath.asia/
นพ.ศุภฤกษ์ ถวิลลาภ https://raynus.wordpress.com/author/raynus/
References
https://www.9jacodekids.com/5-reasons-why-doctors-and-medical-students-should-code/
https://towardsdatascience.com/how-to-learn-to-code-as-a-physician-medical-student-cf5f77ce6711
https://www.jabil.com/blog/digital-disruption-in-healthcare.html