หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินคำว่า UX, UI และ Design Thinking กันมาบ้างแล้ว แต่ตอนนี้มีอีกหนึ่งศาสตร์ที่กำลังมาแรงมากนั้นก็คือ Service Design หรือกระบวนการออกแบบบริการ ซึ่งกระบวนการออกแบบบริการนั้นมักถูกคนจำนวนมากสับสนว่ามันต่างกับ User Experience ยังไง และอีกมากมายที่ไม่รู้ว่ากระบวนการออกแบบบริการนี้มันสำคัญเช่นไร รวมถึงไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วศาสตร์ทั้งหลายเหล่านี้ไม่ว่าจะ User Experience, User Interface, Service Design และ Design Thinking มันเกี่ยวข้องกันหมดเลย เราจะมาอธิบายให้ได้เข้าใจกันแบบเร็วๆ
สมัยนี้การจะสร้างโปรดักหรือเซอร์วิสขึ้นมาใหม่ซักตัวต้องยึดเอาผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางเหมือนที่หลายๆ แบรนด์บอกกัน เราต้องเข้าใจผู้บริโภค รู้ความต้องการของเขามากที่สุด เพื่อให้สิ่งที่สร้างออกมานั้นตอบโจทย์การใช้งาน โดยแนวคิดแบบนี้ก็คือแนวคิดแบบ Human Center/User Center ซึ่งก็คือกระบวนการคิดแบบ Design Thinking ที่ให้เรา Empathize คนก่อนจะสร้างอะไรออกมานั้นเอง
โดยแนวคิดแบบ Human Center หรือกระบวนการคิด Design Thinking นั้นจะมีขั้นตอนหลักๆ 5 ขั้นคือ 1.Empathize ทำความเข้าใจ
2.Define ตีความปัญหา
3.Ideate สร้างไอเดีย
4.Prototype ทดสอบแนวคิด
5.Test พัฒนาต้นแบบ
ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้ก็มักเป็นหลักที่เอามาใช้ต่อยอดในการทำงานศาสตร์แขนงอื่นๆ อย่าง Service Design, UX, UI ด้วยทุกศาสตร์ที่ได้กล่าวถึงต่างก็โฟกัสความต้องการของคนเป็นหลักทั้งนั้น
Table of Contents
Service Design
โดย Service Design เป็นศาสตร์ที่ช่วยจัดการกระบวนการทำงานของสินค้าหรือบริการตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ว่าจะเป็นส่วนหน้าบ้านหรือหลังบ้าน ในทุกๆ Touchpoint ไม่ว่าจะ Offline หรือ Online เพื่อทำให้กระบวนการทำงานมีประสิทธิภาพและง่ายสำหรับ Stakeholders ทุกๆ ฝ่าย หรือจะเรียกว่ามันเป็นศาสตร์ที่พยายามทำความเข้าใจระบบการทำงานของทุกคนให้มากที่สุดเพื่อพัฒนาศักยภาพในการทำงาน ให้โปรดักส์หรือเซอร์วิสเป็นที่รักของทั้งลูกค้าและตัวผู้ให้บริการทุกๆ ฝ่ายด้วย ถ้ามองไปในทางนักการตลาด อาจจะบอกได้ว่ากระบวนการออกแบบนี้ก็สามารถแตะไปถึงการทำ Branding ได้เลยทีเดียว
Service Design เรียกว่าเป็นการมองภาพใหญ่ให้เห็นองค์ประกอบทั้งหมดในการดำเนินงานไม่ว่าจะส่วน Offline หรือ Online จะดูความเชื่อมโยงและทำความเข้าใจระบบการทำงานของฝ่ายต่างๆ มากกว่าแค่ตัวโปรดักส์ ซึ่งมันเป็นกระกวนการทำงานที่สามารถใช้กับสินค้าที่ไม่ใช่ดิจิทัลก็ได้เช่นกัน จะเรียกง่ายๆ ว่ามันคือการทำ Experience ของ Touchpoint โดยรวมทั้งหมด
User Experience
หลังจากมองภาพกว้างผ่านการออกแบบการบริการให้กับโปรดักส์หรือเซอร์วิสด้วย Service Design ไปแล้ว ก็จะมองลึกลงไปกว่าเดิมที่ตัวโปรดักส์ด้วยศาสตร์การออกแบบ Use Experience หรือ UX โดยการออกแบบ UX จะให้ความสำคัญกับประสบการณ์การใช้งานโปรดักส์ของผู้ใช้ เช่นออกแบบยังไงให้ผู้ใช้งานใช้แล้วไม่งง ทำยังไงให้ใช้งานง่าย หรือใช้แล้วสนุก สรุปง่ายๆ คือ UX จะให้ความสำคัญกับอารมณ์และความรู้สึกของผู้ใช้ เป็น Experience ของการใช้โปรดักส์นั้นเอง (องค์กรจะดีขึ้นยังไง? ถ้าทุกทีมเข้าใจ เรื่อง UX)
User Interface
โดยอารมณ์และความรู้สึกของผู้ใช้ถูกกระตุ้นผ่านการออกแบบโปรดักส์ได้ จึงมีศาสตร์ User Interface หรือ UI ที่เป็นศาสตร์ที่เจาะลึกเกี่ยวกับการออกแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์มาช่วย UX อีกที โดยศาสตร์นี้จะให้ความสำคัญกับความสวยงาม ความง่ายต่อการเข้าใจของผู้ใช้ หรืออะไรก็ตามที่เป็นสิ่งที่ผู้ใช้จะมองเห็น เช่น ภาพ สี หน้าจอ ปุ่มต่างๆ ฟ้อนต์ ขนาดตัวอักษร หรือเสียง (ออกแบบ UI ให้เข้าถึงใจลูกค้า! ด้วย 5 Framework)
นี่คือภาพรวมของศาสตร์ต่างๆ ที่ใช้แนวคิด Human Center หรือ Design Thinking มาปรับใช้ในการทำงาน สำหรับใครที่รู้จัก UX หรือ UI อยู่แล้ว ก็หวังว่าพอได้อ่านก็จะได้รู้ว่ามีศาสตร์อีกตัวที่สำคัญไม่แพ้กันอย่าง Service Design อยู่ด้วยนะ
ขอแนะนำคอร์ส Service Design Essentials ที่จะพาคุณเรียนรู้วิธีการสร้างประสบการณ์ พร้อมปรับเปลี่ยนธุรกิจของคุณให้กลายเป็นที่รักของทั้งลูกค้า ผู้ให้บริการและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน
ถ้าสนใจเพิ่มทักษะด้าน UX, UI รวมถึง Design Thinking ตอนนี้ Skooldio มีคลาสสอนอยู่ด้วยนะ หรือจะเป็นทักษะอื่นๆ ก็มีเหมือนกัน ลองเข้าไปดูที่เว็บ Skooldio เลย