McKinsey เผย! องค์กรที่เป็น AI high performer ไม่ได้ใช้ AI แค่ลดต้นทุน แต่เอามาต่อยอดในธุรกิจด้วย

จาก Layoffs.fyi พบว่าหลายบริษัทใหญ่มีการปลดพนักงานเพื่อเป็นการลดต้นทุนค่าคนอย่างมหาศาล เฉพาะในเดือนมกราคมปี 2024 นี้เอง มีบริษัทเทค 85 แห่งปลดพนักงานไปแล้วกว่า 23,670 คน และหนึ่งในเหตุผลหลักคือ “บริษัทเลือกนำ AI มาใช้มากขึ้น”

นอกจากนี้ McKinsey รายงานว่าองค์กรที่เป็น AI high performer ถึง 23% ใช้ AI มาต่อยอดในโมเดลธุรกิจใหม่ และใช้ลดต้นทุนเพียงแค่ 19% เท่านั้น ในขณะที่องค์กรทั่วไปใช้ AI เพื่อลดต้นทุน 33% และ 12% เท่านั้นที่ใช้ต่อยอดธุรกิจ

มุมที่ทุกคนเห็นแล้วคือ AI ทำได้ทั้ง Cost reduction และ เพิ่ม productivity สร้าง value ให้ธุรกิจ ไม่ว่าจะสร้าง business model ใหม่ หรือเพิ่มยอดขายและกำไรให้กับธุรกิจ มาดู 2 ตัวอย่างองค์กรระดับโลกที่นำ AI มาปรับใช้กับธุรกิจจนสร้างรายได้เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว

2 ตัวอย่างองค์กรยักษ์ใหญ่ที่ใช้ AI ทำกำไรให้บริษัท

Amazon

Amazon สร้างรายได้ผ่านช่องทางต่าง ๆ และความสำเร็จของบริษัทมาจากความสามารถในการใช้โมเดลธุรกิจหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น e-commerce, Amazon Web Services (AWS) หรือ service อื่น ๆ อย่าง Amazon Music หรือ Prime Video นอกจากนี้ยังมีระบบ AI อย่าง Alexa

Alexa เป็นส่วนสำคัญของ Amazon โดยทำหน้าที่เป็นประตูสู่สินค้าและบริการมากมาย แม้ว่าจะไม่ได้สร้างรายได้โดยตรงให้กับ Amazon แต่การผสานเข้ากับผลิตภัณฑ์และบริการอื่น ๆ สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ ทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมบ้าน สั่งอาหาร ฟังเพลง และอื่น ๆ อีกมากมาย  ทำให้ ecosystem ของบริษัทแข็งแกร่งขึ้นและ Alexa ยังรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้ และแนะนำสินค้าเหล่านั้นให้กับลูกค้าแต่ละคนแบบ personalized ผ่านการวิเคราะห์จากการค้นหาของลูกค้า

ผลลัพธ์คือ ระบบแนะนำสินค้าของ Amazon สามารถช่วยเพิ่มยอดขายได้ถึง 35% เลยทีเดียว!

Nike

ก่อนที่จะเกิดสถานการณ์โควิด Nike ได้ทุ่มงบประมาณไปกับการลงทุนด้านดิจิทัล เช่น
NIKE: แอปพลิเคชันหลักของสำหรับชอปปิง ติดตามข่าวสาร
Nike Training Club: แอปพลิเคชันสำหรับออกกำลังกายและฟิตเนส
SNKRS: แอปพลิเคชันสำหรับซื้อรองเท้ารุ่นพิเศษและรุ่นลิมิเต็ด

การลงทุนเหล่านี้ส่งผลให้ Nike มีฐานลูกค้าดิจิทัลที่แข็งแกร่งและสามารถปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคในช่วงโควิด-19 ได้อย่างรวดเร็ว ช่วยลดผลกระทบจากโควิด-19 นอกจากนี้ แอป Training Club มีอัตราการเติบโตของยอดขายในจีนเพิ่มขึ้น 30% อีกด้วย ซึ่งการลงทุนใน AI นี้ ไม่เพียงแต่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าเท่านั้น ยังช่วยให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตรงใจตัวเองได้จริงอีกด้วย และการลงทุนด้าน AI นี้ส่งผลให้ยอดขายโดยตรงต่อผู้บริโภค เพิ่มขึ้นจาก 9.08 พันล้านดอลลาร์ในปี 2017 เป็น 21.3 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 

จากการเปลี่ยนแปลงนี้ เกือบครึ่งหนึ่งของกำไรของ Nike มาจากรายได้โดยตรง และสัดส่วนนี้ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

🟢 แล้วองค์กรของคุณพร้อมหรือยัง?
การจะเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดและใช้ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น นอกจากขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์ของผู้บริหารแล้ว ยังเกิดจากการมีพนักงานที่มีสกิลแข็งแกร่ง

3 ทักษะที่พนักงานในองค์กรของคุณต้องมี

▶️ Enduring skill ไม่ว่าจะเป็น Analytical thinking การเอา data มาใช้ประกอบการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ, คิดนอกกรอบ หาวิธีใหม่ ๆ ในการแก้ปัญหา
▶️ The New Literacy AI และ Big Data เป็นทักษะที่ทุกคนควรรู้ในยุคนี้ ทำยังไงให้แต่ละแผนกตัดสินใจด้วย Data และเอา AI ไปปรับใช้ได้ ทำยังไงให้ทำ automation ได้ด้วยตัวเองไม่ต้องพึ่งทีม IT ทุกเรื่อง เพิ่มความคล่องตัวให้กับทีมได้
▶️ Advanced Technical Skill “Stay ahead of the curve” สร้าง value เพิ่มจากเทคโนโลยี อยากวิ่งนำคนอื่น ต้องมีสกิลนี้!
นอกจากนี้ ทักษะการออกแบบประสบการณ์ของลูกค้าก็กำลังเป็นขาขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Service Design ออกแบบ User Experience และ User Interface

ทักษะเหล่านี้ จะช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และประสบความสำเร็จในยุค AI ได้

ถ้าองค์กรคุณอยากอัปสกิลยุคใหม่ให้เก่งยกทีม! เช่น AI | Data | Tech | UX/UI เราช่วยคุณได้ที่ Skooldio เรามี Inhouse Training ซึ่งเคยจัดมาแล้วให้กว่า 500 องค์กรชั้นนำระดับประเทศ เรียนกับ Instructor ตัวจริงในวงการ และยังปรับหลักสูตรให้เข้ากับบริบทขององค์กรคุณ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

More in:Business

Comments are closed.