📊 ทักษะการทำ Data Visualization นั้นเป็นสกิลที่ขาดไม่ได้หากองค์กรต้องการอัปเกรดตัวเองเป็น Data-driven organization เพราะ Data Visualization จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสาร และการตัดสินใจทางธุรกิจได้ดีขึ้น เป็นหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่จะช่วยสร้าง Dashboard ให้เป็นระบบ สวยงาม และสามารถสื่อสารได้ง่ายมากขึ้น
มารู้จักกับ 4 เครื่องมือยอดนิยมที่จะช่วยให้คุณเริ่มต้นทำ Data Visualization อย่างง่าย โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานมาก่อนกัน
1. Power BI
Power BI Desktop คือแอปพลิเคชันฟรีที่สามารถติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อ แปลง และแสดงข้อมูลจากหลากหลายแหล่งข้อมูลที่แตกต่างกัน และสามารถรวบรวมข้อมูลดังกล่าว (มักเรียกว่าจัดรูปแบบ) ให้เป็นรูปแบบข้อมูลได้
จุดเด่นของ Power BI
1.นำข้อมูลจากหลายๆ แหล่ง (Multi Source) มาใช้วิเคราะห์ร่วมกันได้ และ Power BI รองรับข้อมูลได้หลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น ฐานข้อมูล(Database) ไฟล์ (File) และระบบต่างๆ เช่น SAP HANA, Hadoop, Google Analytics, Facebook เป็นต้น
2. ผู้ใช้งานไม่จำเป็นจะต้องมีความรู้ในเชิงเทคนิคมากในการใช้งานให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ โดยหากองค์กรใช้ Office 365 อยู่แล้ว จะสามารถใช้งาน Power BI ได้ทันที
3. สร้างรายงาน Dashboard โดยมี Visualization ในรูปแบบ interactive และสามารถแสดงผลได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Web หรือ Apps ทั้งบน Desktop, Tablet และ Mobile
หมายเหตุ : Power BI ถูกพัฒนาขึ้นโดน Microsoft ทำให้ผู้ที่ใช้ MacOS ไม่สามารถใช้งานได้
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ : https://powerbi.microsoft.com/en-us/
หรือถ้าหากเรียนรู้การใช้งาน Power BI สไตล์ Skooldio สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
2. Tableau
เป็นโปรแกรมสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูล โดยสามารถนำข้อมูลที่มีอยู่มาวิเคราะห์และแสดงผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการสร้างเป็น Visualization ได้ภายในไม่กี่คลิก และรวมออกมาเป็น Dashboard ที่สวยงาม
จุดเด่นของ Tableau
1. ใช้งานง่ายด้วยหลัก Drag-and-Drop Interface โดยสามารถสร้าง Visualization จากการ Drag ข้อมูล (Dimension หรือ Measure) ไป Drop บน Shelf ต่าง ๆ (มีอยู่ประมาณ 10 Shelves เท่านั้น) แล้วโปรแกรม Tableau จะตีความ และสร้างเป็นภาพให้เห็นทันที!
2. Tableau พัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำ User Experience มาปรับปรุงซอฟต์แวร์อยู่ตลอดเวลา โดยซอฟต์แวร์ มีการลงทุน R&D ในสัดส่วนที่สูงมาก และมีการ Upgrade เวอร์ชันหลักเป็นประจำทุกปี ทำให้การแสดงผลทั้งใน Desktop, Mobile หรือแม้แต่ Browser แสดงผลได้ง่ายและสวยงาม
3. สามารถดาวน์โหลดโปรแกรม Tableau ได้ทั้ง Windows และ MacOS ซึ่งง่ายต่อการใช้งานและแชร์ไฟล์
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ : https://www.tableau.com/
3. Google Data Studio
Google Data Studio คือ เครื่องมือของ Google ที่ใช้ในการทำ Data Visualization หรือเป็นการสร้างรีพอร์ตจากข้อมูลตัวเลขที่อ่านยากให้ออกมาเป็นรูปภาพที่อ่านและทำความเข้าใจได้ง่าย
จุดเด่นของ Google Data Studio
1. สามารถดึงข้อมูลมาวิเคราะห์และทำกราฟหรือภาพได้โดยตรง โดยเฉพาะการใช้แหล่งข้อมูลจาก google เช่น Google Analytics, Google Adwords, Google Search Console, DoubleClick Search และ YouTube Analytics
2. มี Templete ให้เลือกใช้สวยงาม และสามารถปรับแก้ได้ง่ายเหมือนกับการใช้ google sheet หรือ google Doc
3. ระบบของ Google Data Studio ทำงานผ่าน Website Browsers ทำให้สะดวกทั้งการแชร์และทำงานร่วมกันของบุคคลในทีม
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ : https://datastudio.google.com/
หรือถ้าหากเรียนรู้การใช้งาน Google Data Studio แบบครบถ้วนกับ Skooldio สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
4. Excel
Excel เป็นโปรแกรมประเภท สเปรดชีต (Speadsheet) หรือโปรแกรมตารางงาน ซึ่งจัดเก็บข้อมูลต่างๆ ลงบนแผ่นตารางงานคล้ายกับการเขียนข้อมูลลงไปในสมุดที่มีการตีช่องตารางทั้งแนวนอนและแนวตั้ง ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ได้รับความนิยมอย่างมากมาอย่างยาวนาน
จุดเด่นของ Excel
1. นอกจากเป็นพื้นที่เก็บข้อมูลดิบ เราก็ยังสามารถนำข้อมูลต่างๆ มาสร้างเป็นกราฟรูปภาพให้คนเข้าใจได้ง่ายผ่านเครื่องมืออย่าง Pivot table และ Pivot chart เพื่อแทรกแผนภูมิคอลัมน์ แผนภูมิเส้น แผนภูมิวงกลม หรือแผนภูมิเรดาร์
2. สามารถนำข้อมูลที่ป้อนลงในตารางมาสร้างเป็นกราฟได้ทันที มีรูปกราฟให้เลือกใช้งานหลากหลายรูปแบบตามความเหมาะสม เช่น กราฟแท่ง เพื่อแสดงยอดขายแต่ละเดือน หรือ กราฟวงกลม เพื่อแสดงส่วนแบ่งการตลาด เป็นต้น แต่อาจต้องอาศัยทักษะในการจัดเรียงข้อมูลและทักษะการออกแบบเพื่อออกแบบ Dashboard ด้วย Excel ให้สวยงาม
หรือถ้าหากเรียนรู้การใช้งาน Microsoft Excel แบบครบถ้วนทั้งฟังก์ชันการทำงาน การวิเคราะห์ข้อมูล และการทำ Data Visualization เบื้องต้น ตามแบบฉบับของ Skooldio สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
และนี่คือ 4 เครื่องมือทำ Data Visualization ที่คุณสามารถเริ่มต้นทำเองได้ง่ายๆ ทั้งนี้ถ้าอยาก Present ข้อมูลให้คนดูเข้าใจ จะต้องไม่ใช่แค่เอาตัวเลขมาแปะ หยิบกราฟมาเติม หรือยกตารางมาใส่ คุณสามารถอ่านเรื่องการนำเสนอข้อมูลเป็นเรื่องที่ควรรู้ที่จะช่วยให้คุณทำ Data Visualization ได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
หากอ่านมาถึงบรรทัดนี้แล้วอยากเรียนรู้การทำ Data Visualize แล้วเรามีคอร์สออนไลน์ Dashboard Design Principles ออกแบบ Dashboard อย่างมีประสิทธิภาพ
สนใจการดูรายละเอียดและเริ่มเรียนได้ที่