ทำยังไงให้ทีม Data วัดผลด้วย Business Outcome ไม่ใช่ Model Performance

สรุปกลยุทธ์สร้าง Data Ninja ทีม Data ที่สร้าง Impact ได้จริง โดยดร. ต้า วิโรจน์ Managing Director ที่ Skooldio ในงาน Thailand Learning & Development Forum 2024 จัดโดยสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT)

เรารู้ว่า Data สำคัญ หนึ่งในความเสี่ยงคือเราไม่สามารถนำ Data มาสร้างประสิทธิภาพในการทำงานได้ ซึ่งแปลว่าเราอาจจะตามลูกค้าไม่ทัน และถ้ามีคู่แข่งใช้เป็น แต่มีแค่ 23.9% เท่านั้นที่กล้าเรียกตัวเองว่าเป็น Data-driven Organization ปัญหาที่บางองค์กรเจอ คือ จ้างทีม Data มาตั้งแพง แต่สร้าง Impact ให้กับธุรกิจไม่ได้เลย 

แล้วเราจะสร้าง Data Ninja ในองค์กรยังไงได้บ้างให้ทีม Data ทำงานได้ตอบโจทย์ธุรกิจจริง ๆ

Agile Mindset

3 อุปสรรคที่ทำให้องค์กรไม่สามารถส่งมอบคุณค่าได้อย่างรวดเร็วและ Agile ไม่ได้

  • Siloed/Bureaucratic มีช่องว่างในการใช้ข้อมูลระหว่างทีม
  • Building a wrong thing จ้าง Data Scientist มาแต่สร้างประโยชน์ให้กับธุรกิจไม่ได้เลย
  • Aiming for a perfect solution มัวแต่วางแผน หวังว่าทำเสร็จแล้วพร้อมใช้แบบ Perfect เลย แต่วันนั้นไม่มีอยู่จริง!

agile essentialsสิ่งที่ Data Ninja ควรทำคือ

Data is a team sport Data Ninja ต้องทำงานร่วมกับทีมอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทีม Data ต้องรู้ว่าแต่ละทีมต้องการใช้ Data เอาไปทำอะไรบ้าง

Focus on Business Impact มนุษย์ Data อาจไปโฟกัสที่โมเดลล้ำ ๆ แต่ไม่ได้ยกระดับความสามารถในการแข่งขันเท่าไหร่ มนุษย์ Data ที่ดีต้องเดินไปคุยกับคน เข้าใจบริบท ปัญหา โอกาสและวิธีการตัดสินใจ ถ้าเค้าทำได้ โมเดลที่ทำและ Insight ที่หาได้จะได้ตอบโจทย์ธุรกิจ

Always start with business problem ปัญหาที่เราจะแก้สำคัญที่สุด ณ ตอนนั้นหรือเปล่า ? หาให้ได้ว่าปัญหาที่แท้จริงคืออะไร ลองถอยกลับไปว่าปัญหาที่อยากแก้ทำอย่างไรได้บ้าง และเลือกวิธีที่น่าจะ Impact ที่สุด ก่อนที่จะไปทำโมเดลยิ่งใหญ่ ทำก่อนไหนก่อนแล้ว Impact กับธุรกิจมากที่สุด

ถ้าอยาก Agile ทำไปก่อน ไม่ต้องรอให้ Perfect

the data wheel of death

การทำซ้ำ ๆ และค่อย ๆ ทำให้ดีขึ้น เช่น วันนี้เราไม่รู้ว่า วิเคราะห์ Data ที่เรามีอยู่แล้วจะเวิร์กมั้ย ถ้าเราทำไปก่อน จะได้ lesson learn และรู้วิธีปรับยังไงในรอบต่อไป หลายองค์กรติดกับดัก Data Wheel of Death เริ่มที่ Data ไม่ได้รับการดูแล -> ไม่น่าเชื่อถือ -> คนไม่เชื่อใน Data -> คนเลยไม่ใช้ Data ดังนั้น Data Ninja ควรจะหลุดพ้นจากวงจรนี้ให้ได้

Integral Skillset

มีทักษะใดทักษะหนึ่งในโลก Data มันยังไม่เพียงพอ เราต้องตั้งคำถามดี วิเคราะห์ดี สื่อสารดี “หน้าที่หลักของ Analyst ขององค์กรคือการสร้างแรงบันดาลใจจากข้อมูล” หลายครั้งอาจจะเป็น ผู้จัดสินใจ หรือ Decision Maker เลยก็ได้ หรือถ้าอยากทำอะไรล้ำ ๆ เราก็เอาไปกระตุ้นทีม Data ต่อได้ ถ้าอยากให้องค์กรได้ ROI สูงสุด เราต้องทำให้ได้ Insight สร้างแรงบันดาลใจให้ทีมอื่น ๆ เร็วที่สุด ซึ่งมีขั้นตอนง่าย ๆ 3 ขั้นตอนคือ

Ask good questions ถามคำถามให้ดี มี Critical Thinking เหมือนจะง่าย แต่เรามี อคติ (Bias) ในการตัดสินใจ เราต้องฝึก Design thinking ก็เป็นเรื่องสำคัญ เราต้องคิดในหมวกลูกค้า รู้ปัญหาแล้ว ตั้งคำถามและไปแก้ได้ถูกจุด

Exploratory Data Analysis สำรวจเพื่อหาข้อมูลที่น่าสนใจ Insight = Data บอกเราในสิ่งที่ไม่ตรงกับที่เราคิด ถ้าจะทำกระบวนการนี้ให้ดี

  • Data Transformation
  • Data Analysis ต้องเอาสถิติเข้ามาด้วย
  • Data Visualization ช่วยให้เข้าใจง่ายขึ้น แต่ถ้าทำไม่ดีก็จะทำให้เข้าใจข้อมูลผิด
  • คนในองค์กรควรจะต้องมี Literacy พื้นฐาน

อีกสิ่งที่ทำคือ Dashboard ที่ดีต้องช่วยให้คนทำงานง่ายขึ้น หลายครั้ง Dashboard ไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะDashboard ที่ดี ต้องครบ 3 Levels นี้

actionable-dashboards

  • What ? – ตอนนี้สถานการณ์เป็นยังไง เป้าหมายของเราคืออะไร
  • Why ? – เข้าใจว่าปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผล
  • How ? – แล้วเราควรจะทำอะไรต่อไป

Effective Data Storytelling อีกทักษะที่สำคัญ จะเล่าเรื่องยังไงให้มี Impact โดยคนทำงานต้องระวัง “The Curse of Knowledge” เราเป็นคนทำ Data เราอาจจะเห็นสิ่งที่อยากจะนำเสนอ แต่ตอนเราไปพรีเซนต์คนฟังไม่ได้รู้กับเรา ดังนั้นเราต้องอย่าคิดไปเองว่าคนอื่นรู้แล้วเหมือนกัน

  • Compelling Narrative มีเรื่องเล่าที่น่าสนใจ
  • Effective Slides อ่านแล้วเข้าใจง่าย กราฟชัด
  • Structured Storyline จัดกลุ่มข้อมูล เรียงการเล่าเรื่องให้มีโครงสร้างที่ชัดเจน

data-storytelling-workshop

Business Storytelling จะต้อง Get to the point ไม่ใช่การเล่าเรื่องแบบ Storytelling ปกติที่ต้องเล่าเรื่องให้ตื่นเต้น

Versatile toolset

เครื่องมือมีเยอะมากในตลาด โจทย์ที่สำคัญที่สุดคือ เราอยากให้คนในองค์กรนำข้อมูลไปใช้ได้จริง แต่บางที่คือคนที่จะใช้ได้นั้นต้องเขียนโค้ดเป็น ซึ่งก็เป็นอุปสรรคในการทำ

  • เลือกใช้เครื่องมือได้ตาม ความเชี่ยวชาญของเรา และตามความต้องการของ Project
  • อะไรที่ง่ายและสะดวก ใช้อันนั้นก่อนเสมอ
  • ถ้ามีทักษะพื้นฐานแล้ว พื้นฐานได้ การเปลี่ยนเครื่องมือก็ไม่ใช่เรื่องยาก

L&D Strategy อยากสร้างสกิลเหล่านี้ให้ทีม ทำอย่างไรได้บ้าง

  1. ประเมินความต้องการของแต่ละคน เริ่มต้นจากการทำ assessment หรือแบบทดสอบก่อนว่าแต่ละคนต้องการอะไร มีสกิลอะไร เพราะแต่ละคนมีไม่เหมือนกัน
  2. Key ที่สำคัญคือ การให้เค้ามาทำงานร่วมกัน สร้าง Agile Mindset ผ่านการทำ Project และฝึกการทำงานร่วมกันให้คนที่ไม่ได้สนิทกันมาทำด้วยกัน เค้าจะได้ เข้าอกเข้าใจ (Empathize) กันมากขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะช่วยเรื่อง Cross Collaboration หรือการทำงานร่วมกันข้ามทีมได้มากขึ้น
  3. ต้องให้เค้าได้ทำจริง ไม่ว่าจะการบ้านหรือเวิร์กชอป มีแบบทดสอบให้ฝึกลงมือทำ ให้คุ้นเคยกับข้อมูลจริง
  4. ให้เค้าได้ลองคิดแบบ End-to-end project ได้เริ่มตั้งแต่การหาโจทย์ทางธุรกิจ ไปจนถึงลงมือทำ และมานำเสนอจริง

More in:Business

Comments are closed.