เปิดเส้นทางย้ายสายจาก เรียนบรรณารักษ์ สู่ UX/UI Designer

จากที่เรียนด้านบรรณารักษ์และได้ลงเรียนเสริมเรื่องการสร้างเว็บอยู่บ้าง จนความสนใจในเรื่อง Web Design พามารู้จักกับศาสตร์ของ UX/UI และเตรียมตัวย้ายสายจาก Career Path ด้านบรรณารักษ์ มาเป็น UX/UI Designer ภายในระยะเวลาอันสั้น โดยมี UX/UI Bootcamp ของ Skooldio เป็นหนึ่งในก้าวสำคัญ ชวนอ่านเรื่องราวการย้ายสายของคุณไนซ์ UX/UI Designer ที่บริษัทชั้นนำแห่งหนึ่ง ว่าได้ผ่านการเรียนรู้และเตรียมตัวอย่างไรบ้างในการย้ายสายมาเริ่มต้นในอาชีพใหม่ได้อย่างรวดเร็ว

ก่อนที่จะมาสนใจงานด้าน UX เรียนจบอะไรมา เคยทำงานอะไรมาบ้าง

จบจากคณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เอกสารสนเทศศาสตร์และบรรณารักษ์ศาสตร์ ก็จะเรียนเกี่ยวกับบรรณารักษ์ การให้เลขหมวดหมู่หนังสือ การลงรายชื่อหนังสือ แคตตาล็อกหนังสือครับ คือพวกที่เกี่ยวกับการจัดการห้องสมุด ส่วนสารสนเทศก็จะเรียนเกี่ยวกับพวก Database หรือว่าการจัดการฐานข้อมูล แล้วก็มีวิชา Web Design แล้วก็ Web Programing ด้วยครับ

ทำไมถึงเริ่มต้นสนใจอาชีพสาย UX

ตอนช่วงปี 4 ได้มีโอกาสลงวิชาเลือก Web Design ครับ ตอนนั้นเราจะได้ Project ในการทำ Website ของเราขึ้นมาเอง ก็รู้สึกว่ามันน่าสนุกดี คือจะได้เรียน HTML, CSS ได้ลองเขียนเว็บง่ายๆ แต่ในตอนนั้นเราเลือก Project ด้วยตัวเอง ไม่ได้มีการไปสัมภาษณ์ผู้ใช้ หรือว่าเข้าใจศาสตร์เกี่ยวกับ UX/UI ครับ ก็เลยออกแบบ Website ออกมาในแบบที่เราชอบเอง

พอจบมาก็คิดว่าอยากจะไปต่อทางด้าน Web Design แต่ไม่รู้ข้อมูลอะไรเลย ก็เลยไปหาว่า Web Design ต้องทำอะไรบ้าง ต้องรู้เรื่องไหนบ้าง อัปสกิลอะไรบ้าง ก็เลยเจอคำว่า UX/UI ซึ่งมันเป็นพาร์ทหนึ่งของการออกแบบ Website, Product หรือ Apllication ก็เลยมีความสนใจในคำนี้ เลยเอาคำว่า UX/UI ไปเสิร์ชแล้วก็เพิ่งรู้ว่ามันมีอาชีพ UX/UI Designer ก็เริ่มศึกษามาเรื่อยๆ จนมาเจอเว็บของ Skooldio ที่อธิบายว่า UX/UI คืออะไร จากคนที่จบไม่ตรงสายก็สามารถย้ายสายมา UX/UI ได้ ก็เลยไปลงเรียนคอร์สของ Skooldio ครับ ชื่อคอร์สว่า Intro to User  Experience เป็นการเปิดโลกเกี่ยวกับทางด้าน UX/UI มากขึ้นครับ

 

จุดไหนที่นำพามาสู่ UX/UI Bootcamp ของ Skooldio

เริ่มต้นจากที่ไนซ์เรียนคอร์ส Intro to User Experience แล้วก็ได้ลองทำ Project ด้วยตัวเอง เรียนรู้เพิ่มเติมจาก YouTube ครับ แล้วก็ลองทำ Project เพื่อยื่นสมัครงาน แต่ส่วนมากก็จะไม่ค่อยได้ถูกเรียกสัมภาษณ์เพราะว่าเหมือนเราเรียนแค่นิดเดียวแล้วก็ลงไปทำ Portfolio เอง แล้วก็สมัครงานเอง ไม่ได้มีคนมาไกด์ให้ ก็เลยรู้สึกว่าการเรียนแบบทฤษฎีอาจจะไม่ตอบโจทย์สำหรับไนซ์ คือเรามองไม่เห็นภาพจริงของผู้ใช้ ผู้ใช้ที่เราไปสัมภาษณ์ตอนนั้นก็จะเป็นเพื่อนๆ เรา มากกว่าที่จะเป็นผู้ใช้จริงๆ เราค่อนข้างที่จะรู้อยู่แล้วว่าเพื่อนเราจะต้องตอบอะไร แล้วเราก็ทำ Project ที่มันค่อนข้างจะ Play Safe กับตัวเอง คือเรารู้ Flow ของมันอยู่แล้ว

พอเห็น UX/UI Bootcamp ว่าลงมือทำจริง ได้ทำ Project จริง ไปสมัครงานจริงๆ ได้ แล้วก็ได้เรียนกับผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน UX/UI ครับก็เลยสนใจ Bootcamp นี้ครับ

ผู้ใช้ที่เราไปสัมภาษณ์ตอนนั้นก็จะเป็นเพื่อนๆ เรา มากกว่าที่จะเป็นผู้ใช้จริงๆ แล้วเราก็ทำ Project ที่ค่อนข้างจะ Play Safe กับตัวเอง

พอมาเรียน UX/UI Bootcamp ประสบการณ์เป็นยังไงบ้าง

ตอนแรกที่คิดไว้ก็คืออาจจะเป็นเหมือนให้เราลองทำ Project ของเราเอง ให้เราคิดมาว่าอยากทำแอปฯ อะไร แต่พอเข้ามาสัปดาห์แรกทาง Skooldio ก็จะจัดให้แต่ละกลุ่มทำ Project ที่เป็นในหมวดหมู่นั้น ซึ่งไนซ์เลือกหมวดสุขภาพไปแล้วก็ได้ทำแอปฯ เกี่ยวกับประจำเดือน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไกลตัวของไนซ์มากๆ คือจริงๆ ตอนแรกอยากทำแอปฯ แบบ Shopee หรือพวกไลฟ์สไตล์ที่เราคิดว่าเราพอจะรู้ Flow ของมัน แต่อันนี้คือเราไม่มีพื้นฐานอะไรเลย ไม่มีแอปฯ อะไรแบบนี้อยู่ในโทรศัพท์เลย ก็รู้สึกว่าค่อนข้างที่จะท้าทาย

มันก็เป็นข้อดีที่ทำให้เราต้องตั้งใจเรียน เพราะในการสัมภาษณ์ผู้ใช้เราก็ต้องเอาข้อมูลของผู้ใช้มาหา Insight เพื่อนำไปสู่การทำ Project ให้เสร็จ ถ้าเป็น  Project ที่เราเลือกเองเราอาจจะมี Flow คร่าวๆ อยู่ในหัวอยู่แล้วว่าจะทำฟีเจอร์อะไร แต่อันนี้คือจะต้องเอาข้อมูลจากผู้ใช้จริงมาทำเป็นฟีเจอร์จริงๆ

ได้ทำแอปฯ เกี่ยวกับประจำเดือน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไกลตัวมากๆ เราไม่มีพื้นฐานอะไรเลย ถ้าเป็น  Project ที่เราเลือกเองอาจจะมี Flow คร่าวๆ อยู่ในหัว แต่อันนี้คือจะต้องเอาข้อมูลจากผู้ใช้จริงมาทำเป็นฟีเจอร์จริงๆ

 

มีอะไรที่ไม่คิดว่าจะได้เรียนจาก Bootcamp แล้วรู้สึกว่ามันมีประโยชน์กับเรามากๆ

คือก่อนที่เราจะเข้ามาเรียน ไนซ์ทำ Project ด้วยตัวเอง ซึ่งคนที่เป็น Stakeholder คือไนซ์ที่เป็นคนคิด Project นี้ขึ้นมาเอง แต่พอเราเข้ามาใน Bootcamp จะมี Stakeholder ที่คอยให้โจทย์เรา ซึ่งเราก็จะต้องออกแบบโดยคำนึงถึงผู้ใช้ด้วย แล้วก็คำนึงถึงทาง Business ซึ่งก็คือ Stakeholder ด้วย คือมันจะต้องสอดคล้องไปด้วยกัน ไม่ใช่แค่ออกแบบให้ผู้ใช้โอเคแต่ Business ก็ต้องโอเคด้วย อันนี้เป็นสิ่งที่เรารู้สึกว่าถ้าเราทำเองเราจะไม่ได้เก็ตตรงนี้ครับ

อาจารย์ผู้สอนเป็นยังไงบ้าง

ในทุกสัปดาห์ที่เราเรียนจะมี Section ให้ถามคำถามในช่วงท้ายครับ ในช่วงแรกไนซ์จะไม่กล้าถามเพราะกลัวว่าจะเป็นคำถามที่ดูไม่ฉลาด แต่พออาจารย์บอกว่าให้ทุกคนถามมาได้เลย ไม่ต้องกลัวว่าคำถามมันจะดูไม่โอเค ไม่ว่าจะเป็นคำถามที่ยากหรือคำถามที่ง่าย ไนซ์มีความรู้สึกว่าเขายินดีที่จะตอบทุกๆ คำถาม ทำให้เรารู้สึกไม่แย่ในการที่เราถาม แล้วก็ถึงแม้ว่าจะหมดเวลาแล้วก็ถามกันจนเกินเวลา แต่อาจารย์ทุกคนก็ตอบ

เพื่อนๆ ใน Bootcamp เป็นยังไงบ้าง

รู้สึกว่าทุกคนมีความตั้งใจเดียวกันที่จะมาเรียน เลยเป็นบรรยากาศการเรียนที่ทุกคนแลกเปลี่ยนกัน ทุกคนให้ความร่วมมือในการทำ Project จนทุกวันนี้เราก็ยังติดต่อพูดคุยกัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงานกันหรือบางทีไนซ์ก็ขอความช่วยเหลือว่าอันนี้ทำยังไง ก็แลกเปลี่ยนกัน ก็คือได้ Conection กับเพื่อนๆ ที่อยู่สายงานเดียวกันครับจาก Bootcamp นี้

หลังจากจบ Bootcamp แล้ว รู้สึกตรงตามความตั้งใจแรกของเราไหม

ต้องบอกว่าเกินความคาดหวังครับ ตอนแรกคิดว่าเรียน Bootcamp จบ แล้วเราก็ไปทำ Project ของเราเองแล้วก็ยื่นสมัครงานเอง แต่ว่าของทาง Skooldio พอเราเรียนจบแล้ว เขาก็จะมีช่วงเวลาให้เราไปทำ Portfolio ของเรา แล้วเขาก็จะมีวันที่ให้มาตรวจ Portfolio คล้ายๆ ให้มา Pitching ว่า Portfolio ของเราเป็นยังไง

ซึ่งวันนั้นไนซ์ก็ได้ถามเทคนิคการสมัครงานจากอาจารย์ที่ช่วยรีวิว Portfolio ปรับว่าอันนี้อาจจะเยอะเกินไปหรือว่าอันนี้อาจจะต้องลดลงมาหน่อย แล้วก็เทคนิคการ Pitching ที่ควรจะต้องนำเสนอภายใน 3 นาทีให้รู้ถึงปัญหา คือเหมือนช่วยไกด์ไลน์ในการสมัครงานไปด้วยครับ ทำให้รู้สึกว่าจากตอนแรกคิดว่าเราจะต้องเรียนจบแล้วก็จบเลย แต่ว่าอันนี้คือยังขอคำแนะนำได้อยู่เรื่อยๆ

อย่างไนซ์ตอนที่เรียนจบไปแล้วเพิ่งทำ Portfolio เสร็จ ก็ได้อาจารย์ช่วยรีวิว Portfolio แล้วก็ช่วยแนะนำการสมัครงานให้จนเราสามารถได้งานอีกด้วยครับ

พอเราได้เปลี่ยนสายจริง ๆ มองย้อนกลับไปรู้สึกยังไงบ้าง

ตอนแรกไม่คิดว่าตัวเองจะสามารถย้ายมาเป็น UX/UI Designer ได้ เพราะรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ไกลตัวมาก ตอนที่ไนซ์เรียนมหาลัย 4 ปีไม่เคยได้ยินคำว่า UX/UI แล้วเราก็เพิ่งจะมาย้ายสายตอนช่วงที่เรียนจบ แล้วมันเป็นเวลาแค่ประมาณ 4-5 เดือนประมาณนี้ครับที่ไนซ์เตรียมตัวย้ายสาย

แต่พอเรามาเรียน Bootcamp 6 สัปดาห์ บวกกับทำ Portfolio ด้วย ซึ่งในการทำ Portfolio ครั้งนี้มันง่ายแล้วเพราะว่าเรารู้เครื่องมือ เรามีความรู้ที่จะไปทำ Portfolio แล้วเราก็มีคนช่วยไกด์ในการทำ Portfolio ว่าควรจะต้องทำแบบไหน ควรทำ Project แบบไหน แล้วเราก็มีหัวข้อ Project ที่ค่อนข้างจะ Challange ก็รู้สึกว่า Happy เกินคาด ไม่คิดว่าตัวเองจะสามารถย้ายสายมาทางด้านนี้ได้ Bootcamp นี้ถือเป็นตัวช่วยที่ทำให้เราสามารถย้ายสายมาด้านนี้ได้จริงๆ ครับ

กลับมาอีกครั้ง! Bootcamp ที่ได้รับความวางใจให้เป็นหลักสูตรเตรียมพร้อมสู่ UX/UI Designer ที่มีคุณภาพของไทยมานานกว่า 4 รุ่น รุ่น 5 เปิดรับสมัครแล้ว พร้อมพาคุณกลับมาเรียนในห้องเรียนด้วยกัน!

หลักสูตร 6 สัปดาห์ ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจครบทุกด้าน UX/UI มากกว่า 40 หัวข้อ และเครื่องมือสำคัญ

พิเศษ! ลดเหลือ 63,000 จาก 70,000 บาท (จำกัดจำนวนแค่ 10 ที่นั่งเท่านั้น!) พร้อมโปรผ่อน 0% นาน 10 เดือน

สมัครเรียนเลย https://to.skooldio.com/6MZV2j6WIyb

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: คุณการ์ตูน 097-925-1663, คุณเปา 098-278-8549