By 
เทคโนโลยีทีก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว การพัฒนาแอปพลิเคชั่นที่เริ่มจากแบบ native คือพัฒนาไปทีละแพลตฟอร์ม หรือต้องมีหลายทีมในการพัฒนาแอปพลิเคชันเพียงตัวเดียว ก็ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ framework สำหรับพัฒนาแอปฯ ที่เริ่มก้าวกระโดดมากขึ้น ด้วยการมีสิ่งที่เรียนกว่า Cross-Platform Application Framework มานั่นเอง ข้อดีของ cross-platform นั้น ที่โดดเด่นก็คือ สามารถพัฒนาแอปฯ ครั้งเดียว แต่ใช้ได้ทุกแพลตฟอร์มนั่นเอง ซึ่งในตลาดปัจจุบัน ก็มีหลากหลาย framework
โดยบทความนี้ เราจะขอยกตัวอย่าง framework ที่กำลังมาแรงในปัจจุบันอย่าง Flutter ที่ถูกพัฒนาโดยบริษัทที่ใคร ๆ ก็รู้จักอย่าง Google นั่นเอง โดยเราจะยกตัวอย่างจากบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ใคร ๆ ก็รู้จักมา ว่าเขาใช้ Flutter พัฒนาแอปฯ อะไรกันบ้าง แล้วทำไมถึงเลือกใช้ Flutter กัน
ขอบคุณภาพจากงาน Flutter Engage
ด้วยความที่ Flutter ถูกพัฒนาโดย Google ทำให้หลาย ๆ แอปพลิเคชั่นของ Google เองก็ต่างเริ่มถูกพัฒนาด้วย Flutter ไม่ว่าจะเป็น Google Stadia แพลตฟอร์มสำหรับสตรีมเกม ที่เป็นแอปฯ ทั้งใน Android และ iOS หรือแม้แต่แอปฯ ที่สาย Marketing ต้องใช้อย่าง Google Ads หรือแอปติดเครื่องชาว Android อย่าง Google Assistant ก็ตาม นอกจากนั้นยังมีแอปฯ อื่น ๆ ของ Google ที่ไม่ได้กล่าวถึงที่อยู่ในภาพด้านบนอีกด้วย
BMW
ขอบคุณภาพจาก My BMW
บริษัทรถยนต์ชื่อดังอย่าง BMW ก็เอาใจเหล่าเจ้าของรถด้วยแอปฯ ที่มีชื่อว่า My BMW ที่เหล่าคนรักรถ BMW จะสัมผัสประสบการณ์การใช้ฟังก์ชันต่าง ๆ ที่สามารถเชื่อมต่อกับรถตัวเองได้ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนการเดินทาง การเช็กระบบการชาร์จพลังงาน ไปจนถึงการเรียกใช้บริการในกรณีที่รถยนต์ขัดข้อง ก็สามารถทำได้ทันที และทั้งหมดนี้ถูกพัฒนาด้วย Flutter แบบ 100% เลยทีเดียว
SpaceX
ขอบคุณภาพจาก SpaceX GO!
ถ้าพูดถึงนักธุรกิจสายเทคโนโลยีที่โด่งดัง ก็คงหนีไม่พ้น Elon Musk กับโปรเจกต์ที่โดดเด่นอย่าง SpaceX นั่นเอง โดย SpaceX GO! เป็นแอปฯ ที่บอกถึงข้อมูลต่าง ๆ ในโครงการ SpaceX ตั้งแต่ตารางการปล่อยจรวด ไปจนถึงข้อมูลของจรวด แคปซูลต่าง ๆ ไปจนถึงตำแหน่ง ความเร็ว และสถานะของยานต่าง ๆ ของ SpaceX เอง ซึ่ง feature ทั้งหมดเหล่านี้ถูกอัดอยู่ในแอปฯ ที่พัฒนาด้วย Flutter นั่นเอง
Alibaba
Xianyu แพลตฟอร์ม retail ยอดนิยมของบริษัทชื่อดังของจีนอย่าง Alibaba ที่มี Active User มากกว่า 10 ล้านคนต่อวัน ก็เลือกใช้ Flutter ด้วยเหตุผลที่ว่า Flutter นั้นช่วยประหยัดเวลาเพราะคุณสมบัติอย่าง “Single Codebase” หรือ “พัฒนาครั้งเดียวใช้ได้ทุกแพลตฟอร์ม” นั่นเอง ซึ่งทำให้ทีมพัฒนาสามารถสร้าง พัฒนา และแก้ไขได้ง่ายกว่ามานั่งทำทีละแพลตฟอร์ม
Toyota
ภาพโดย rawpixel.com – www.freepik.com
รถยนต์สมัยใหม่นั้น จะมีสิ่งที่เรียกว่า Infotainment (คำผสมระหว่าง Information; การให้ข้อมูล และ Entertainment; สิ่งบันเทิง) ที่เป็นหน้าจอสำหรับเลือกเพลง แสดงแผนที่ระหว่างขับรถ หรือฟังก์ชันอื่น ๆ ที่ทันสมัย ซึ่ง Toyota ก็ได้ประกาศว่ารถยนต์ generation หน้าจะมี Infotainment ที่พัฒนาด้วย Flutter ซึ่งสาเหตุที่โตโยต้าเลือก Flutter นั้น เพราะด้วยประสิทธิภาพที่สูง UX ที่สม่ำเสมอ และได้ได้ feedback จากผู้ใช้งานได้เร็ว
Grab
นอกจากบริษัทระดับโลกแล้ว ในยุคสมัยนี้ หลาย ๆ คนคงได้ใช้ หรือเป็นลูกค้าประจำแอปฯ สั่งอาหารต่าง ๆ ไม่มากก็น้อย ซึ่ง Grab นั้นก็ได้เลือก Flutter ในการพัฒนาแอปฯ GrabMerchant สำหรับให้ร้านค้าต่าง ๆ ใช้บริหารหน้าร้านของตัวเองได้ ซึ่งข้อดีของ Flutter คือ ไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงแพลตฟอร์มที่แต่ละร้านใช้งาน อีกทั้งยังสามารถพัฒนาแอปฯ เพิ่มเติมได้เพียงครั้งเดียวอีกด้วย
สรุป
นอกจากทั้ง 6 บริษัทยักษ์ใหญ่ที่ใช้ Flutter พัฒนาแอปฯ ใกล้ตัวมาก ๆ อย่างแอปฯ สั่งอาหาร หรือจะเป็นแอปฯ ในรถยนต์ที่เริ่มจะฮิตกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ขึ้นไปจนถึงกระสวยอวกาศกันเลยทีเดียว ก็ยังมีหลากหลายบริษัทที่เลือก Flutter มาเป็นเครื่อมือหลักในการพัฒนาแอปฯ (อ่านตัวอย่างเพิ่มเติมได้ที่ Flutter Showcase) ที่ พัฒนาครั้งเดียว ได้ทุกแพลตฟอร์ม ทำให้ออกสู่ตลาดได้ไวขึ้น เพิ่มโอกาสทางธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าง่ายทั้งฝั่งทีมพัฒนา และดีกับฝั่ง Business เลยทีเดียว (ถ้าอยากศึกษาข้อดีของ Flutter จริงจัง ทีมงานแนะนำบล็อกดี ๆ ไปให้ทุกคนได้ศึกษากันได้ที่ 4 ข้อดีของการพัฒนาแอปพลิเคชันด้วย Flutter)
ถ้าสนใจ Flutter แล้ว แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร หรือเริ่มศึกษามา แต่ยังจับทาง เราก็มีตัวช่วยเหมือนกัน
แพ็ก 2 คอร์สออนไลน์ – Flutter Pack From Basic to Advanced – Skooldio
Skooldio ขอแนะนำ “Flutter Pack From Basic to Advanced” Bundle Pack คอร์สออนไลน์ใหม่จัดเต็ม 2 คอร์ส อัปสกิลการพัฒนา Hybrid Application จัดเต็มตั้งแต่พื้นฐานจนเชี่ยวชาญ โดยใช้ Flutter แพ็กนี้ประกอบด้วย
- คอร์ส Building Hybrid Applications with Flutter (ราคาเต็ม 1,990 บาท เริ่มเรียนได้ทันที)
- คอร์ส Mastering Application Development with Flutter (ราคาเต็ม 2,990 บาท เริ่มเรียนได้วันที่ 17 ก.พ.)
กับราคาเปิดตัวสุดพิเศษ ถ้าสมัครตอนนี้! รับส่วนลด 1,200 บาท เพียงใช้โค้ด FLUPT1 รับราคาพิเศษ 3,290 บาท จากราคาปกติ 4,490 บาท ทันที! ส่วนลดมีจำนวนจำกัด (เฉพาะสมัครในนามบุคคล)
หรือ สมัครในนามองค์กรได้ในราคาพิเศษเพียง 3,990 บาท เพียงใช้โค้ด FLUPCORP (หากต้องการสมัครมากกว่า 5 คอร์ส ติดต่อ hello@skooldio.com สำหรับราคาพิเศษ ยิ่งซื้อมากยิ่งลดมาก) 👉 สมัครเรียนเลยที่นี่
แหล่งที่มา
