บทความ - Cloud Native คืออะไร?

ปัจจุบันองค์กรขนาดใหญ่มีการแข่งขันสูงและเร่งพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ หรือ แอปพลิเคชันปล่อยสู่ตลาด เพราะว่าธุรกิจที่สามารถพัฒนาแอปพลิเคชันที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้เร็วที่สุด สร้างโอกาสในการโกยกำไรจากลูกค้าได้ก่อนคู่แข่ง ซึ่งบริษัทก็ตื่นรู้และเริ่มเร่งขยับขยายระบบต่าง ๆ และ รวมถึงต้องการผู้มีทักษะความสามารถที่เข้ามาพัฒนา Product ให้เกิดขึ้นเร็วที่สุดได้นั่นเอง

สิ่งที่เข้ามาเป็นกุญแจสำคัญ แบบทันเวลาพอดี! ก็คือเทคโนโลยี Cloud Infrastructure และการพัฒนาซอฟต์แวร์ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ตอบโจทย์การแข่งขันขององค์กรปัจจุบันได้ เรื่องของ Cloud Native กลับกลายเป็นหนึ่งในเรื่องที่พูดถึง เรื่องเปลี่ยนแปลงใหญ่ในวิธีการพัฒนาและการดำเนินงานของทีมพัฒนาซอฟต์แวร์ สำหรับคนสายงาน IT ไม่ว่าจะเป็น โปรแกรมเมอร์ หรือ ทีม Infra ต่าง ๆ การที่เข้าใจและการใช้งานเทคโนโลยีนี้กลายเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

เพื่อที่จะเข้าใจและนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ ขอให้เรามาไขความหมายและสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ Cloud Native ด้วยกัน

Cloud Native คืออะไร?

ก่อนที่เราจะเข้าไปในรายละเอียด ขอบอกก่อนว่า Cloud Native ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของการใช้ Cloud Technology เท่านั้น แต่ Cloud Native เป็นแนวคิดที่มุ่งเน้นไปที่การสร้างและการดำเนินงานพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มียืดหยุ่น และ สามารถ Scale ได้ดี ขึ้นไปอยู่บนระบบ Cloud Computing

องค์กรกำลัง Transform เข้าสู่ Cloud Native และกำลังเร่งปรับการทำงาน และขยับขยายทีมให้รองรับกับเรื่องนี้อย่างมาก

ทำไม Cloud Native มีส่วนสำคัญของการพัฒนาซอฟต์แวร์ในปัจจุบัน

  • Scale ได้ดี มีความยืดหยุ่น: การใช้งาน Cloud Native ช่วยให้แอปพลิเคชันสามารถขยายขนาดตามความต้องการของธุรกิจได้อย่างยืดหยุ่น โดยไม่จำเป็นต้องมีการปรับปรุงโค้ดใหม่หรือต้องทำการปรับปรุงอย่างเสียเวลา บริษัทอยากออก Product ใหม่ หรือ สร้างระบบใหม่ก็สามารถวางแผนได้ในระยะยาว รองรับการเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดในอนาคตได้
  • ระบบมีความ Stable: การออกแบบแอปพลิเคชันให้เป็นรูปแบบ Cloud Native ช่วยให้มีความคงทนทานและเสถียรในการทำงาน ด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยี Cloud Computing และระบบ Automation ต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับการทำงานใน Cloud Enviroment ที่สอดคล้องกับการพัฒนาซอฟต์แวร์รูปแบบ Microservices และ DevSecOps
  • การอัปเดตและ Maintenance ง่าย: ตอบโจทย์ทั้งทีม Dev และทีม Operation ช่วยลดเวลาและความยุ่งยากในการดำเนินการอัปเดตและบำรุงรักษาแอปพลิเคชัน สามารถอัปเดตปรับปรุงและแก้ไขได้โดยไม่ต้องหยุดการทำงานของระบบ ทำให้มีความคล่องตัวสูง
  • ลด Time to Market: แอปพลิเคชัน Cloud Native มีความสามารถในการตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้และสภาพแวดล้อมได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ทีมพัฒนาสามารถออกแบบ พัฒนา ปรับปรุงและปรับเปลี่ยนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถพัฒนาและส่งมอบแอปพลิเคชันถึงมือลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว

ก่อนจะเริ่ม Cloud Native ทีมต้องศึกษาเรื่องอะไรบ้าง?

Pillar of Cloud Native

Cloud Infrastructure เจ้าใหญ่

การสร้างและการบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐาน Cloud Computing จะเป็นองค์ประกอบสำคัญของการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในปัจจุบัน โครงสร้างพื้นฐาน Cloud รวมถึงการใช้งาน Server และ Databaseในรูปแบบ Open Source และใช้บริการ Cloud Services จากผู้ให้บริการชั้นนำ เช่น Amazon Web Services (AWS), Microsoft Azure, และ Google Cloud Platform (GCP) จดชื่อแบรนด์เหล่านี้ แล้วเร่งหาความรู้เตรียมตัวให้พร้อมกันได้เลย

Microservice จะเป็นรากฐานการวางโครงสร้างของ Cloud Native

การใช้งาน Microservice เป็นรูปแบบการสร้างแอปพลิเคชันที่แยกส่วนการทำงานเป็นหลายๆ Services เล็กๆ ที่ทำงานร่วมกัน ทำให้ Services แต่ละส่วนสามารถพัฒนาและปรับปรุงได้อิสระต่อกัน ซึ่งทำให้ง่ายต่อการทดสอบ ปรับปรุง และปรับเปลี่ยน นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดความขัดแย้งระหว่างการพัฒนาและการดำเนินงาน

ปัจจุบันแม้ว่าระบบเดิมของหลายองค์กรยังอาจะเป็นรูปแบบรวมศูนย์เป็นระบบใหญ่ แต่โปรเจกต์ใหม่ ๆ ของทุกองค์กรเริ่มที่จะหันมาพัฒนาในรูปแบบ Microservice กันมากขึ้น เพื่อที่จะสามารถวางแผน Scale ได้ดีในอนาคต และพัฒนา จัดการได้อย่างคล่องตัว สอดคล้องกับรูปแบบของ Cloud Native ชัดเจน

DevSecOps จะเป็นเรื่องของทุกทีมที่ต้องทำงานร่วมกัน

DevSecOps เป็นการผสมผสานระหว่าง Culture การพัฒนาซอฟต์แวร์ (DevOps) และเสริมความปลอดภัย (Security) เข้าไปในทุกกระบวนการตั้งแต่เริ่มเขียนโค้ดบรรทัดแรกจนส่งมอบถึงมือผู้ใช้งาน เพื่อให้ได้ระบบและกระบวนการพัฒนาที่สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว และมีความมั่นคงปลอดภัยตลอดระยะเวลาการพัฒนาและดำเนินงาน ในโลก Cloud Native, DevSecOps ช่วยให้ทีมพัฒนาสามารถรวมกันทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบได้อย่างเสถียร

เรื่องของ DevSecOps จะกลายเป็น Culture หลักที่องค์กร Tech ชั้นนำทุกที่ปรับไปใช้งาน แน่นอนว่าถ้าองค์กรคุณต้องทำงานร่วมกันกับองค์กรชั้นนำอื่น หรือ ทีมนักพัฒนาระดับ Global จะเป็นเรื่องที่ต้องเร่งศึกษา ก่อนที่จะตกขบวนเป็นคนล่าหลังในสาย Tech

การจัดการและการใช้งาน Container บน Cloud

การใช้งาน Container เป็นเทคโนโลยีที่สำคัญในการสร้างและการดำเนินงาน Cloud Native Environment โดย Container ช่วยให้สามารถแยกแยะและจัดการกับแอปพลิเคชันแต่ละส่วนอิสระ โดยสามารถทำงานบนแพลตฟอร์มที่แตกต่างกันได้ ซึ่งช่วยลดความขัดแย้งในการพัฒนาและการดำเนินงาน

ตัวอย่างเครื่องมือยอดนิยมที่ถูกพูดถึงอยุ่เสมอได้แก่ Docker และ Kubernetes จะเป็นเครื่องมือหลักของผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ ใครไม่รู้ หรือ ไม่เคยใช้นี่หายากมากแล้ว เหมือนกับ Git ในปัจจุบันที่ยังไงก็ต้องเคยได้ยินและผ่านมือมาบ้างแน่นอน

ระบบ Automation จะแทรกอยู่ทุกกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์

นอกจาก Services ของระบบ Cloud Computing แล้ว ระบบ Automation จะเป็นปัจจัยสำคัญในการทำให้กระบวนการพัฒนาระบบใน Cloud Native อย่างเห็นได้ชัดเจนขึ้นไปอีกขั้น การใช้งานเครื่องมือ Automated Tools จะช่วยลดเวลาในการทำงาน ลดความผิดพลาด และเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรของ Cloud เช่น การใช้งาน Continuous Integration/Continuous Deployment (CI/CD), Observability และการทำ Infrastructure as Code (IaC) รวมไปถึงการทำ Automated Software Testing เป็นต้น

ถ้าคุณคือคนที่อยู่ในวงการพัฒนาซอฟต์แวร์ หรือ โลก Technology เรื่องของ Cloud Native กำลังจะเป็นเรื่องที่หนีไม่พ้น ต้องรีบปรับตัว ศึกษาทักษะต่าง ๆ ในองค์ประกอบของ Cloud Native ที่กล่าวมาด้านบน ไม่ว่าจะเป็น Microservice หรือ DevSecOps เป็นต้น สุดท้ายแล้วเรื่องพวกนี้ทั้งหมดจะเป็น A Must skill ที่ต้องรู้ จนเป็นเรื่องพื้นฐานแน่นอนครับ


การเริ่มต้นศึกษาทักษะสำคัญของ Cloud Native อาจเป็นเรื่องใหม่ แต่ไม่ใช่เรื่องยากถ้ามาเรียนรู้กับผู้เชี่ยวชาญระดับ TOP ของวงการ ทั้งรูปแบบเวิร์กชอป Onsite ลงมือทำจริง ๆ อย่างใกล้ชิด และคอร์สออนไลน์ปูพื้นฐานทุกเรื่อง ครบจบในหลักสูตรของ Skooldio

รวมหลักสูตรพัฒนาทักษะที่สำคัญสู่โลก Cloud Native

Microservices Workshop : Design, Develop & Deploy

เวิร์กชอป Microservice : Design, Develop and Deploy สอนโดย คุณปุ๋ย สมเกียรติ ปุ๋ยสูงเนิน

2 เวิร์กชอป Microservice เนื้อหาเข้มข้น 4 วัน ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจและสามารถลงมือสร้าง Microservice ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมนำทีมของคุณประยุกต์ใช้กับองค์กรได้จริง !!

เรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริงในวงการของ 👨‍💻 คุณปุ๋ย สมเกียรติ ปุ๋ยสูงเนิน (Technical Coach & Software Craftsman ที่สยามชำนาญกิจ, เจ้าของเพจ @somkiat.cc) กูรูตัวจริงด้าน Microservice

🎉 พิเศษ ซื้อแบบ Bundle 2 เวิร์กชอป จัดเต็ม 4 วัน ได้ราคาถูกกว่า !! ลดทันที 4,900 บาท 👉 คลิกเพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม หรือ ลงทะเบีนนสมัครเรียนเลย !!

The Complete DevSecOps  Workshop Series

4 เวิร์กชอป DevSecops จาก Skooldio สอนโดยคุณเดียร์ จิรายุส นิ่มแสง

โปรแกรมรวบรวมเนื้อหา DevSecOps ที่ครบและเข้มข้นที่สุดในไทย! กับ เวิร์กชอปรูปแบบ Onsite ที่จะพาคุณได้ลงมือทำ DevSecOps จริงทุกขั้นตอนฉบับ Best Practices บนระบบ CloudLabs เพื่อสามารถประยุกต์ใช้งานได้จริงในองค์กรของคุณ นำโดยผู้เชี่ยวชาญระดับ TOP ของไทย พร้อมทีมงาน TA มืออาชีพคอยดูแลตลอดหลักสูตร

โปรแกรมนี้ประกอบด้วย 4 เวิร์กชอป [เลือกเรียนได้ตามความสนใจ]
📙 DevOps Transformation
📗 Security in DevSecOps
📘 Infrastructure as Code and GitOps
📕 Observability : The Next Level Monitoring

สอนโดย คุณเดียร์ จิรายุส นิ่มแสง – ผู้ก่อตั้ง และ CEO ของ Opsta (Thailand) และ Certified Kubernetes Administrator (CKA) & Certified Kubernetes Security Specialist (CKS) คนแรกของประเทศไทย

🎉พิเศษ! ลดสูงสุดทันที 4,000 บาท พร้อมโปรผ่อน 0% ได้นาน 10 เดือน 😍 ยิ่งสมัครมาเป็นทีม มาเรียนกันเยอะยิ่งได้รับส่วนลดพิเศษเยอะ  👉 คลิกดูรายละเอียดหลักสูตรและลงทะเบียนเรียนได้เลยที่นี่

เรียนหลักสูตร Skooldio สามารถลดหย่อนภาษีนิติบุคคลได้สูงสุด 250%

เวิร์กชอปทั้งหมดของ Skooldio ผ่านการรับรองจากโครงการ สอวช. ช่วยพัฒนาพนักงานของคุณให้เก่งขึ้นยกทีม แล้วยังสามารถลดหย่อยภาษีนิติบุคคลได้สูงสุด 2.5 เท่า หรือ “เท่ากับจ่ายในราคา 50% เท่านั้น!” เมื่อสมัครเรียนในนามองค์กร

More in:Technology

Comments are closed.